Mod พลิกบทนักร้อง อินจัดการแสดง
โพสท์โดยนาทีนี้ใครที่เป็นแฟนละครของช่อง 8 ในเครืออาร์เอส เป็นต้องสะดุดตาสะดุดใจกับการแสดงของสาว Mod อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง น้องเมีย ในบท มะเฟือง ที่เธอตีบทแตกกระจาย หรืออย่างเรื่องล่าสุด ข้าวนอกนา ที่กำลังจะออนแอร์ Mod รับบทเป็น อีดำ นอกจากบทจะดราม่าเข้มข้นแล้ว เธอยังต้องลงทุนทาตัวดำตลอดเรื่องอีกด้วย
เห็นสาว Mod แสดงละครได้ดีขนาดนี้ หลายคนคงสงสัยว่าเธอไปแอบร่ำเรียนการแสดงมาจากไหน พี่ Kaka เลยชวนสาว Mod มานั่งจับเข่าคุยเรื่องการแสดงของเธอกัน แล้วจะรู้ว่าสาวคนนี้ไม่ได้มีดีแค่ร้องเพลงอย่างเดียวนะ
อยากให้เล่าย้อนไปตอนที่ได้ทำงานแสดงครั้งแรก เป็นอย่างไรบ้าง?งานแสดงครั้งแรกคือหนังเรื่อง Super แหบ-แสบ-สะบัด รู้สึกอายมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่ทำให้รู้จักการแสดง แล้วนักแสดงทุกคนก็เป็นรุ่นใหญ่ที่ผ่านงานแสดงมา แต่เรายังใหม่อยู่ บทก็เป็นคอเมดี้ด้วย ขำหลุดกระจาย ตอนนั้นรู้สึกโอเคกับการแสดงอยู่นะ แต่ยังไม่ค่อยชิน กลัวว่าถ้าเราไปแสดงละครเรื่องอื่นๆ เราจะเป็นตัวถ่วงเขารึเปล่า (หัวเราะ) พูดตรงๆ ว่าเราก็ยังทำได้ไม่ดี แอ็กติ้งได้บ้าง แต่ก็ยังไม่ดีพอ
แล้วมารับบทในเรื่อง น้องเมีย ได้อย่างไร?
ก่อนหน้านี้ผู้ใหญ่พยายามถามเราตลอดเวลาอยากลองเล่นละครไหม เราก็ปฏิเสธตลอดว่าเล่นไม่ได้หรอก กลัวจะไปเป็นตัวถ่วงคนอื่นเขา (หัวเราะ) รู้สึกว่ามันต้องยากมากแน่ๆ จนผู้ใหญ่บอกว่าเธอต้องเล่นเรื่องนี้ ถ้าไม่เล่นเธอจะเสียดายมาก เพราะว่าบทดีมาก ใครๆ ก็อยากเล่นบทนี้ ไม่มีใครปฏิเสธเหมือนเธอ สุดท้ายก็ตัดสินใจเล่นดู วันที่ Fitting พี่เมย์ เฟื่องอารมณ์ เป็นผู้จัด เขาก็บอกว่าให้ลองต่อบทกันดู คือเกร็งมาก เพราะเขาเป็นนักแสดงอาชีพ แต่ก็น่ารัก คอยช่วยเราจนอุ่นใจได้ และตอนเข้ากองวันแรกก็รู้สึกกดดันมาก แต่พอไปเจอผู้กำกับพี่ต้น ชานนท์ ก็น่ารัก คอยช่วยตลอดจนไม่กดดัน ด้วยตัวบทก็เครียดอยู่แล้ว แต่พอเขาสั่งคัทปุ๊บเรากลับไม่รู้สึกเครียดเลย เพราะบรรยากาศในกองสนุกมาก
สำหรับบท มะเฟือง ต้องทำการบ้านหนักไหม?เรียกได้ว่าหินเลยทีเดียว กว่าจะอินกับบทนี้ได้ก็ใช้เวลาเหมือนกัน ด้วยความที่เราต้องแสดงเป็นตัวละครตัวนั้นอยู่ตลอด ทำให้เราต้องคิดว่ามะเฟืองต้องคิดอย่างนั้นอยู่แน่ๆ พออ่านบทและแสดงไปเรื่อยๆ ทำให้เราอินมากขึ้น จนกระทั่งมีอยู่ครั้งหนึ่ง อ่านบทตอนสุดท้ายแล้วรู้สึกสงสารมะเฟืองจนร้องไห้ แล้ววันที่ไปถ่ายต้องมีซีนร้องไห้ด้วย ผู้กำกับก็ถามว่าเราร้องไห้ได้รึเปล่า ซึ่งมันยากมาก ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ นึกถึงเรื่องอะไรขึ้นมาแล้วจะร้องไห้ได้ เราก็เลยขอลองดู ซึ่งพอตอนถ่ายเราก็ร้องไห้หนักมาก เหมือนว่าเราเป็นมะเฟืองจริงๆ เรื่องนี้ให้ข้อคิดกับชีวิตหลายแง่มาก ตัวมะเฟืองจริงๆ ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ จะร้าย แต่อดีตทำให้เขาเป็นแบบนั้น คือมีเหตุผลว่าเพราะอะไร แต่มะเฟืองก็ไม่ได้ร้ายทีเดียว ยังมีมุมน่ารักอยู่ด้วย ตอนจบด้วยความที่มะเฟืองทำผิด เขาก็ได้สำนึกและเรียนรู้เป็นบทเรียนด้วย
มาถึงการแสดงในละครเรื่อง ข้าวนอกนา บ้าง รู้สึกว่าง่ายหรือยากกว่าเดิม?อีดำ เป็นตัวละครที่ไม่ได้ร้าย ถึงจะร้ายก็ร้ายเพื่อปกป้องตัวเอง ใครๆ ก็รังเกียจ เพราะตัวดำ เขาจะรู้สึกค้านอยู่ในใจตลอดว่า ทำไมคนอื่นต้องมองที่ภายนอก ทำไมไม่มองคนจากข้างในบ้าง จะเป็นคนที่มีความพยายามมาก ไม่ยอมให้ใครดูถูกง่ายๆ และเป็นคนที่สู้ชีวิตมาก ด้วยความที่ไม่มีใครรักเขาจริง เวลาที่มีใครเข้ามาดูแลมากๆ ก็จะให้ใจเขาไปร้อยเต็มเลย อีดำเป็นตัวละครที่มีครบทุกด้าน เป็นบทที่ยากกว่ามะเฟืองเยอะ เพราะอารมณ์เยอะมาก อย่างมะเฟืองจะเกลียดคนรอบข้างเพราะว่าขาดความอบอุ่น แต่อีดำจะเป็นเพราะสังคมกดดันให้เป็นแบบนั้น ต้องทำอารมณ์ซับซ้อน ทำให้บทยากขึ้นไปอีก
เห็นสาว Mod แสดงละครได้ดีขนาดนี้ หลายคนคงสงสัยว่าเธอไปแอบร่ำเรียนการแสดงมาจากไหน พี่ Kaka เลยชวนสาว Mod มานั่งจับเข่าคุยเรื่องการแสดงของเธอกัน แล้วจะรู้ว่าสาวคนนี้ไม่ได้มีดีแค่ร้องเพลงอย่างเดียวนะ
อยากให้เล่าย้อนไปตอนที่ได้ทำงานแสดงครั้งแรก เป็นอย่างไรบ้าง?งานแสดงครั้งแรกคือหนังเรื่อง Super แหบ-แสบ-สะบัด รู้สึกอายมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่ทำให้รู้จักการแสดง แล้วนักแสดงทุกคนก็เป็นรุ่นใหญ่ที่ผ่านงานแสดงมา แต่เรายังใหม่อยู่ บทก็เป็นคอเมดี้ด้วย ขำหลุดกระจาย ตอนนั้นรู้สึกโอเคกับการแสดงอยู่นะ แต่ยังไม่ค่อยชิน กลัวว่าถ้าเราไปแสดงละครเรื่องอื่นๆ เราจะเป็นตัวถ่วงเขารึเปล่า (หัวเราะ) พูดตรงๆ ว่าเราก็ยังทำได้ไม่ดี แอ็กติ้งได้บ้าง แต่ก็ยังไม่ดีพอ
แล้วมารับบทในเรื่อง น้องเมีย ได้อย่างไร?
ก่อนหน้านี้ผู้ใหญ่พยายามถามเราตลอดเวลาอยากลองเล่นละครไหม เราก็ปฏิเสธตลอดว่าเล่นไม่ได้หรอก กลัวจะไปเป็นตัวถ่วงคนอื่นเขา (หัวเราะ) รู้สึกว่ามันต้องยากมากแน่ๆ จนผู้ใหญ่บอกว่าเธอต้องเล่นเรื่องนี้ ถ้าไม่เล่นเธอจะเสียดายมาก เพราะว่าบทดีมาก ใครๆ ก็อยากเล่นบทนี้ ไม่มีใครปฏิเสธเหมือนเธอ สุดท้ายก็ตัดสินใจเล่นดู วันที่ Fitting พี่เมย์ เฟื่องอารมณ์ เป็นผู้จัด เขาก็บอกว่าให้ลองต่อบทกันดู คือเกร็งมาก เพราะเขาเป็นนักแสดงอาชีพ แต่ก็น่ารัก คอยช่วยเราจนอุ่นใจได้ และตอนเข้ากองวันแรกก็รู้สึกกดดันมาก แต่พอไปเจอผู้กำกับพี่ต้น ชานนท์ ก็น่ารัก คอยช่วยตลอดจนไม่กดดัน ด้วยตัวบทก็เครียดอยู่แล้ว แต่พอเขาสั่งคัทปุ๊บเรากลับไม่รู้สึกเครียดเลย เพราะบรรยากาศในกองสนุกมาก
สำหรับบท มะเฟือง ต้องทำการบ้านหนักไหม?เรียกได้ว่าหินเลยทีเดียว กว่าจะอินกับบทนี้ได้ก็ใช้เวลาเหมือนกัน ด้วยความที่เราต้องแสดงเป็นตัวละครตัวนั้นอยู่ตลอด ทำให้เราต้องคิดว่ามะเฟืองต้องคิดอย่างนั้นอยู่แน่ๆ พออ่านบทและแสดงไปเรื่อยๆ ทำให้เราอินมากขึ้น จนกระทั่งมีอยู่ครั้งหนึ่ง อ่านบทตอนสุดท้ายแล้วรู้สึกสงสารมะเฟืองจนร้องไห้ แล้ววันที่ไปถ่ายต้องมีซีนร้องไห้ด้วย ผู้กำกับก็ถามว่าเราร้องไห้ได้รึเปล่า ซึ่งมันยากมาก ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ นึกถึงเรื่องอะไรขึ้นมาแล้วจะร้องไห้ได้ เราก็เลยขอลองดู ซึ่งพอตอนถ่ายเราก็ร้องไห้หนักมาก เหมือนว่าเราเป็นมะเฟืองจริงๆ เรื่องนี้ให้ข้อคิดกับชีวิตหลายแง่มาก ตัวมะเฟืองจริงๆ ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ จะร้าย แต่อดีตทำให้เขาเป็นแบบนั้น คือมีเหตุผลว่าเพราะอะไร แต่มะเฟืองก็ไม่ได้ร้ายทีเดียว ยังมีมุมน่ารักอยู่ด้วย ตอนจบด้วยความที่มะเฟืองทำผิด เขาก็ได้สำนึกและเรียนรู้เป็นบทเรียนด้วย
มาถึงการแสดงในละครเรื่อง ข้าวนอกนา บ้าง รู้สึกว่าง่ายหรือยากกว่าเดิม?อีดำ เป็นตัวละครที่ไม่ได้ร้าย ถึงจะร้ายก็ร้ายเพื่อปกป้องตัวเอง ใครๆ ก็รังเกียจ เพราะตัวดำ เขาจะรู้สึกค้านอยู่ในใจตลอดว่า ทำไมคนอื่นต้องมองที่ภายนอก ทำไมไม่มองคนจากข้างในบ้าง จะเป็นคนที่มีความพยายามมาก ไม่ยอมให้ใครดูถูกง่ายๆ และเป็นคนที่สู้ชีวิตมาก ด้วยความที่ไม่มีใครรักเขาจริง เวลาที่มีใครเข้ามาดูแลมากๆ ก็จะให้ใจเขาไปร้อยเต็มเลย อีดำเป็นตัวละครที่มีครบทุกด้าน เป็นบทที่ยากกว่ามะเฟืองเยอะ เพราะอารมณ์เยอะมาก อย่างมะเฟืองจะเกลียดคนรอบข้างเพราะว่าขาดความอบอุ่น แต่อีดำจะเป็นเพราะสังคมกดดันให้เป็นแบบนั้น ต้องทำอารมณ์ซับซ้อน ทำให้บทยากขึ้นไปอีก
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ "VOTE" และ "SHARE"
Mod พลิกบทนักร้อง อินจัดการแสดง
30 VOTES (5/5 จาก 6 คน)
หากคุณเป็นเจ้าของนิตยสาร/โมเดลลิ่ง เอเจนซี่ ต้องการโปรโมท สามารถส่ง e-mail แจ้งทีมงานให้ตั้งค่า username ของคุณเป็น Official User ได้ที่ info@postjung.com โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
Comment ด้วย facebook