ไม่สนเรื่องเรตติ่ง ค่ะ

เปรียบมวย อาญารัก-เรือนเสน่หา
วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2556 เวลา 08:56 น.

ละครแต่ละช่อง เวลาที่ออกอากาศมาชนกันในเวลาเดียวกัน เนื้อเรื่องเนื้อหามักจะคล้าย ๆ กัน หรือไม่ก็เป็นละครแนวเดียวกัน ตอนนี้ที่มีให้เห็นชัดเจนก็เป็นละคร “อาญารัก” ทางช่อง 7 กับละคร “เรือนเสน่หา” ทางช่อง 5 ที่เวลาออกอากาศนั้นเป็นวันเวลาเดียวกันเป๊ะ แถมละครยังเป็นแนวพีเรียด นุ่งซิ่น ใส่ผ้าแถบ เหมือนกันอีก เนื้อหาก็ไม่ต่างกัน มีคุณหลวงมากเมียอยู่รวมกันในบ้าน และเมียก็แย่งกันเป็นใหญ่ในบ้าน เกิดเรื่องราวชิงรักหักสวาท พอลูกเกิดมาก็เกิดการชิงดีชิงเด่นกันในบ้าน เพียงแต่ว่าแต่ละเรื่องจะขมวดปมของเรื่องไปอยู่ตรงมุมไหนเท่านั้นเอง

“อาญารัก” นั้นอาจจะได้เปรียบ ในเรื่องของช่องทางการออกอากาศที่มีคนดูเยอะกว่า เพราะการส่งสัญ ญาณของช่องไปได้ไกลกว่า แต่ “เรือนเสน่หา” นั้นก็มีจุดเด่นอยู่ที่บทและการดำเนินเรื่องที่กระชับฉับไว ดูแล้วสนุก ในส่วนของนักแสดงนั้นถ้าเปรียบมวยกันแล้ว มีข้อได้เปรียบเสียเปรียบกันตรงบางจุด

คุณหลวง แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง นั้นอายุอานามก็เหมาะที่จะเป็นคุณหลวง มีความน่าเกรงขาม เหมาะกับสังคมที่ชายเป็นใหญ่ในบ้าน ในขณะที่ คุณหลวง อานัส ฬาพานิช นั้นก็มีความเคร่งขรึมอยู่ไม่น้อย แม้จะต้องใส่หนวดเคราให้มีอายุมากขึ้นก็ตาม ในส่วนของบรรดาภรรยาคุณหลวงทั้ง 2 เรื่องนั้น นุสบา ปุณณกันต์ เมียใหญ่อาญารัก ก็ดูนิ่งเป็นผู้ดี บุคลิกต้องเรียบร้อยใจเย็น เอมมี่-มรกต กิตติสาระ เมียรองที่มีความจัดจ้าน ร้ายอยู่ในตัว และ ยุ้ย- จีรนันท์ มะโนแจ่ม เมียสามผู้น่าสงสาร เปิดจอมาทีไร เจ้าหล่อนต้องร้องไห้น้ำตาแฉะแทบทุกฉาก เรียกว่ารวมความรันทดเอาไว้ในตัวเธอทั้งหมด อันนี้ต้องถือว่ายุ้ยสอบผ่านอย่างสบาย ๆ เพราะบทเจ้าน้ำตาดูจะเป็นบทที่ถนัดของเธออยู่แล้ว

มาทางฟาก “เรือนเสน่หา” นั้น เมียใหญ่ผู้เลือดเย็น มาจากตระกูลสูงศักดิ์ ฉากหน้าเป็นคนดี แต่ลับหลังถึงขั้นบงการฆ่าคนได้ บี-น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ นั้นก็แสดงออกได้ดี และสังเกตว่าบทร้ายจะกลายเป็นบทถนัดของบีไปเสียแล้ว ส่วนเมียรอง พิม-พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร ก็ร้ายได้ใจ เล่นได้ยั่วยวน และยั่วโมโหได้ในเวลาเดียวกัน ถือเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของพิมทีเดียว ต้องบอกว่าเธอทำได้ดีทีเดียว มาถึงเมียบ่าวผู้เจียมตัวอย่าง เจี๊ยบ-โสภิตนภา ชุ่มภาณี นั้น ต้องบอกว่าหน้าตาและผิวพรรณอาจจะทำให้คนดูเชื่อยากสักหน่อยว่าเป็นเมียบ่าวผู้น่าสงสาร แต่ถ้าดูการแสดงไปเรื่อย ๆ บทบาทเศร้าเคล้าน้ำตาก็อาจจะทำให้เจี๊ยบดูเป็นเมียบ่าวที่น่าสงสารขึ้นมาได้

ถึงยังไงเรื่องราวของบทนั้นก็เชือดเฉือนดูสนุกกันได้ทั้งสองเรื่อง “อาญารัก” อาจจะดำเนินเรื่องเรียบ ๆ เนิบ ๆ แต่ด้วยความที่บทประพันธ์สนุก บทโทรทัศน์ก็สามารถสนุกตามได้ไม่ยาก แต่เรื่องราวของ “เรือนเสน่หา” นั้น สนุกสนาน เหมือนเอาเรื่องราวของละครหลาย ๆ เรื่องมาผสมผสานกัน มีการดำเนินเรื่องที่ไม่ยืดเยื้อ เมื่อบทสนุกบางทีก็ทำให้จุดบกพร่องบางอย่างในเรื่องถูกมองข้ามไปได้ แต่คนที่คุ้มสุด ๆ เห็นจะเป็นคนดู ที่ได้มีทางเลือกในการดูละครมากขึ้น แต่ถ้าเบื่อแนวพีเรียดแล้วละก็ จะดูละครแนวอื่นที่ช่องอื่น ๆ ก็ได้ไม่ว่ากัน เพราะว่าทุกวันนี้มีละครให้ดูแทบจะทั้งวันอยู่แล้ว แต่ที่แน่ ๆ ทั้งสองเรื่องก็มีข้อคิดให้คิดตามได้เหมือนกัน เพราะเรื่องราวแต่ละเรื่องก็สะท้อนภาพสังคมไทยในยุคก่อนได้เป็นอย่างดี สิ่งที่คิดได้แน่ ๆ ก็คือ ความโลภ ความหลง ความทะเยอทะยาน การชิงดีชิงเด่นนั้น มีอยู่ในสังคมทุกยุคทุกสมัยจริง ๆ.
ปล. เอามาจาก เดลินิวส์

Tags ที่เกี่ยวข้อง : ปาย แม่ฮ่องสอน ภาคเหนือ

หากคุณเป็นเจ้าของนิตยสาร/โมเดลลิ่ง เอเจนซี่ ต้องการโปรโมท สามารถส่ง e-mail แจ้งทีมงานให้ตั้งค่า username ของคุณเป็น Official User ได้ที่ info@postjung.com โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ