มีสถิติบ่งว่า ผู้ชายยุคใหม่มีสิทธิ์เป็นไบเซ็กชวลมากขึ้น
โพสท์โดยไบเซ็กชวล ก็คือ คนที่มีรสนิยมทางเพศ เสพกามกับหญิงก็ได้ ชายก็ดี หรืออย่างที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า ''เสือไบ'' นั่นแหละค่ะ
แต่ว่าไปแล้วก็ยังมี ไบเซ็กชวลแท้ กับไบเซ็กชวลเทียม ปะปนกันไป
คือ พวกไบฯ จริงๆ นั้น จะกระเดียดไปทางเพศที่สาม มีรักกับชายด้วยกัน ในลักษณะหญิงรักชาย ขณะเดียวกันก็รู้จักรักผู้หญิงในฐานะชายคนหนึ่งด้วย นอนให้ก้นชายคนรัก ก็มีความสุขพอกับ ตัวเองสอยกามหญิงคนรัก ไม่ว่าแบบไหน กระจู๊ดเจี๊ยวแข็งเป๊ก เสียวสุดซาบซ่านกระฉูดรักได้ทุกกระบวน
พวกไบฯ เทียม ส่วนใหญ่ไม่ยอมให้ก้นคนอื่น ไม่เล่นกับเกย์อีแอบ แต่ถ้าเป็นกะเทย หรือเด็กหนุ่มเนื้อเนียนหน้าหวาน มาเลย ไม่มีเกี่ยง นั่นก็เพราะพวกไบฯ เทียม ก็คือผู้ชายทั้งแท่ง ฮอร์โมนเทสทอสเทอโรน เต็มพิกัดนี่แหละ คือขอให้ตัวเองได้ถึงจุดสุดยอด เสียวซ่าน จากการเสียดสีสัมผัสของของจรวดหัวบานก๋าสั่นหงึกๆ ไม่ว่าจะสอยกามกับสตรีตามวิถีเพศธรรมชาติ หรือจะเสียบกดเข้าข้างหลังคนเพศเดียวกันที่ยอมให้ก้นก็ตามที สำเร็จความใคร่กระฉูดน้ำรักก็ถือบรรลุความต้องการตัวเอง เหมือนดั่งคำโบราณที่เปรียบเปรยคนมักมากในกามแบบนี้ว่า...คลำไม่มีหาง ก็ล่อแล้ว...(ก็ยังดี ที่ไม่หน้ามืดถึงขนาดเป็นผัวน้องหมา ผัวนังหมู หรือวัวสาว)
คนยุคใหม่มีความเร่งเร้าให้เป็นเป็นไบเซ็กชวลสูง เพราะวิถีอินเตอร์เซ็กฌ่วล ผู้ชายสำอางองค์มากขึ้น หล่อเหลา ชอบแต่งตัว เนื้อเนียน หอม ความแตกต่างระหว่างเพศลดน้อยลง ผู้ชายสมัยนี้โอบกันง่าย เพราะน่าโอบ
แต่สมัยก่อน ผู้ชายจะผู้ช้าย...ผู้ชาย กล้ามเนื้อแข็ง ผิวสาก มีกลิ่นตัวเหงื่อไคล ตัวก็ไม่หอม ชายด้วยกันโอบกันมันน่าอ้วก เพราะองค์ประกอบผู้ชายแบบนี้แหละ
เมื่ออินเตอร์เซ็กฌ่วล ทำให้ชายโอบกอดกันง่าย อิสระทางเพศก็เปิดกว้าง อารมณ์กามของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด สิ่งที่ทำให้ชายกับชายก้าวข้ามกามเพศ ก็คือความ...อยากลอง...ดูทีรึ มันจะเป็นยังไง?
เป็นผู้กระทำ สอดแทรกชำแรกร่างหญิง ก็รู้แล้วว่าสุขอย่างไร เสียวซ่านตรงไหน อยากรู้จริงว่า ผู้หญิงจะรู้สึกอย่างไร ในฐานะผู้รองรับการกระทำล้ำลึก โอบรับการกระถดเข้าไปจนหมด
ก็เพราะอยากรู้ อยากลอง นี่แหละ จึงก้าวไปสู่ความเป็นไบเซ็กชวล เมื่อสามารถหาคู่ที่ถูกใจ ไว้ใจได้ ผู้หญิงเป็นของตาย ผู้ชายไว้ตื่นเต้ล...ล์
ตื่นเต้ล...ล...ล์ จริงๆ นะคะ สำหรับ ไบฯ แท้ ที่ให้ก้นเพื่อนชายด้วยกัน เพราะตามหลักกายภาพแล้ว เขาไม่มีวันได้รับความเสียวซ่านจากกามกิจนั้น เพราะไม่มีฝอยเส้นประสาทไวต่อการรับสัมผัสในช่องทวารหนักที่จะทำให้เสียว ซ่านได้เลย จากการครูดสัมผัส
แต่ก็มีบางทฤษฎีนะคะบอกว่า ชายที่ให้ก้น อาจเสียวได้เหมือนกัน เพราะช่องทวารปลายลำไส้ใหญ่ห่างกันแต่พังผืดกั้น กับด้านหลังของถุงอัณฑะที่มีต่อมผลิต.. ซึ่งมีฝอยประสาทขยุกเยอะแยะ เมื่อมีการเสียดสีครูดเข้าๆ ออกๆ จากลำแท่งแปลกปลอมทางหูรูดทวารหนัก ก็จะสะเทือนถึงต่อมดังกล่าว ที่ทำให้เสียวหน่วงได้เหมือนกัน
ทฤษฎีนี้ คุณนายรูบี้ไม่รู้จริงๆ ว่า จริงหรือไม่ (เวลาตัวเองโดนคนรักขอเข้าประตูหลัง ข้าง หน้าเขาก็ไม่ลดละ ช่วยทำอย่างอื่นที่ประตูหน้าให้เสียวซ่านไปทั้งตัว มันแต่ร้องกรี๊ดๆ เลยไม่รู้ว่ามันเสียวตรงไหนบ้างค่ะ)
คุณเกย์ควีนหรือคุณหนูเสือไบที่เคย อย่างไรให้ข้อมูลคุณนายรูบี้ว่ารู้สึกเสียวหรือเพราะสุขใจตรงไหน เล่าให้ฟังบ้างนะคะ
เขียนเรื่องนี้แล้วมันจุ๊กกระหยุย
และอยากบอกว่า วิถี ไบเซ็กชวล นั้นมีมานานแล้ว นับหลายพันปีก่อนในยุคโรมันเรืองอำนาจ
ดูจะเปิดเผย เป็นเรื่องปรกติชีวิตสามัญ โดยเฉพาะสังคมชนชั้นสูง ที่ร่ำรวยมหาศาล จนวันทั้งวันคิดแต่สรรหาเรื่องกามที่เร้าใจสุดโต่ง จนกล่าวกันว่า ในยุคนั้นอารยธรรมสูงสุด แต่จิตใจคนโรมันกลับมั่วสุมกามกันสุดๆ
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ "VOTE" และ "SHARE"
มีสถิติบ่งว่า ผู้ชายยุคใหม่มีสิทธิ์เป็นไบเซ็กชวลมากขึ้น
44 VOTES (4.4/5 จาก 10 คน)
หากคุณเป็นเจ้าของนิตยสาร/โมเดลลิ่ง เอเจนซี่ ต้องการโปรโมท สามารถส่ง e-mail แจ้งทีมงานให้ตั้งค่า username ของคุณเป็น Official User ได้ที่ info@postjung.com โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ





