‘นาคาแลนด์’ ดินแดนที่ไม่มีใครรู้จัก
โพสท์โดย l2oomSurround Vibe: ‘นาคาแลนด์’ ดินแดนที่ไม่มีใครรู้จัก
อินเดียเป็นแหล่งอารยธรรมอันเป็นรากฐานสำคัญอีกแห่งของจิตวิญญาณตะวันออก ดังเห็นได้จากแนวคิดทางด้านศิลปวิทยา ปรัชญา ตลอดจนวิทยาการหลายแขนงได้ถือกำเนิดขึ้นที่นี่ เนื่องจากพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติแห่งนี้เป็นที่ตั้งของผู้คนหลากหลายวัฒนธรรมมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล
จุดหมายปลายทางของการเดินทางในครั้งนี้อยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ซึ่งมีชื่อเรียกขานกันว่ารัฐ 7 สาวน้อย (7 Sister States) อันประกอบไปด้วยรัฐอรุณาจัลประเทศ, อัสสัม, เมฆาลัย, มณีปุระ, ตริปุระ, มิโซรัม และจุดหมายหลักของเราคือรัฐนาคาแลนด์ สาวน้อยของเราทั้ง 7 รัฐนี้ได้แยกออกมาจากแผ่นดินใหญ่ โดยมีจุดเชื่อมเป็นบริเวณคอคอดหรือที่เรียกว่าคอไก่ (Chicken Neck) และแวดล้อมไปด้วยประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ พม่า ภูฏาน และเขตทิเบตในจีน
จุดพักแรกของการเดินทางคือรัฐอัสสัมอันเป็นประตูสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย เมื่อเดินทางมาถึงก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดียิ่งจากรัฐบาลของรัฐอัสสัม พร้อมด้วยการแสดงยิ่งใหญ่เกินคาด ที่อัสสัมนี้เป็นรัฐที่รู้จักกันดีทั่วโลกในหลายๆ ด้าน เริ่มต้นจากเป็นแหล่งน้ำมันที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก หรือจะเป็นเรื่องของผ้าไหมที่ขึ้นชื่อ และที่ขาดไม่ได้เลยคือเป็นแหล่งผลิตชาชั้นดีแหล่งใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก ชาที่ผลิตได้ในอินเดียจำนวนกว่าครึ่งผลิตขึ้นจากที่นี่
เช้าวันรุ่งขึ้นเราเดินทางมุ่งสู่อุทยานแห่งชาติ Kaziranga อันเป็นมรดกโลก เพราะที่นี่เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าน้อยใหญ่หลายชนิด โดยเฉพาะแรดนอเดียวที่ใกล้สูญพันธุ์นั้นอาศัยอยู่ที่นี่มากที่สุดในโลก
สถานที่อีกแห่งหนึ่งที่เรียกความประทับใจของพวกเราได้มากที่สุดในการเดินทางครั้งนี้คือ หมู่บ้านชาวไทยอาหม ซึ่งตั้งอยู่บริเวณพรมแดนระหว่างรัฐอัสสัมและนากาแลนด์ ชาวไทยอาหมเป็นชาวไทยกลุ่มหนึ่งที่อพยพมาอยู่ที่ดินแดนแห่งนี้เมื่อ 600 กว่าปีก่อน เจ้าหลวงสุกาฟ้า (Chaolung Sukaphaa) ซึ่งเดิมเป็นชาวม้ง ทรงมีชัยในการทำศึกและตั้งรกรากเป็นกษัตริย์อาณาจักรอาหมได้เป็นพระองค์แรก
วัฒนธรรมของชาวไทยอาหมไม่ว่าจะเป็นภาษา การแต่งกาย วัด ตลอดจนอาหารการกินล้วนแล้วแต่มีความละม้ายคล้ายคลึงกับไทยเป็นอย่างมาก สร้างความตื่นเต้นและตื้นตันให้กับเจ้าภาพและผู้มาเยือนกันทั้ง 2 ฝ่าย มีความรู้สึกราวกับได้พบญาติพี่น้องที่ไม่ได้พบกันเป็นเวลานาน จึงต่างพากันพูดคุยแลกเปลี่ยนภาษากันสนุกสนานและแทบไม่อยากจากไป
แต่งานเลี้ยงทุกงานย่อมมีวันเลิกรา ก่อนกลับพี่น้องชาวไทยอาหมยังห่ออาหารเป็น ‘ข้าวนื่อ’ คือข้าวเหนียวนึ่ง และ ‘เนี่ยหมู’ คือเนื้อหมู ให้ไปเป็นเสบียงระหว่างการเดินทาง พร้อมกับคำอำลาจากพ่อเฒ่าแม่เฒ่าด้วยน้ำปริ่มนัยน์ตาด้วยคำว่า ‘ไปดีมาดีนะ’
และแล้วในที่สุดเราก็มาถึงนาคาแลนด์ หลังจากนั่งรถไต่ระดับภูเขามาหลายชั่วโมง ภาพที่เห็นเบื้องหน้าคือแสงไฟจากบ้านเรือนจำนวนมากส่องประกายระยิบระยับปกคลุมภูเขาหลายลูก เชื่อมด้วยดวงดาวหลายร้อยดวงที่สุกสกาวประดับอยู่บนม่านแห่งรัตติกาล ดูเหมือนทางช้างเผือกซึ่งกำลังรายล้อมอยู่แค่เอื้อม
รัฐนาคาแลนด์นี้สูงจากน้ำทะเลตั้งแต่ 610-3,826 เมตร มีจำนวนประชากรราว 2 ล้านคน โดยมีเมืองโกฮิมา (Kohima) เป็นเมืองหลวง ขอบอกอีกนิดว่าสินค้าจากเมืองไทยเป็นที่นิยมมากและมีร้านค้าจากเมืองไทยถึง 2 ร้าน ที่จำหน่ายสินค้าจำพวกเครื่องอุปโภคบริโภคจากเมืองไทย
ประชากรของที่นี่ประกอบด้วยชนเผ่าต่างๆ มากมาย โดยมีชนเผ่าหลักๆ อยู่ 16 เผ่าอันเป็นเจ้าของดินแดน ประกอบด้วยเผ่า Kuki, Kachari, Zeliang, Angami, Dangma, Chakhesang, Lotha, Sumi, Ao, Pochary, Sangtom, Phom, Yimchunger, Konyak, Chary และ Khiamnungan โดยทั่วไปผู้คนที่นี่จะติดต่อสื่อสารด้วยภาษานากามีส (Nagamese)
อ่านบทความเต็มได้ในนิตยสาร VOLUME เล่มที่ 141
เรื่อง/ภาพ: สุรชัย แสงสุวรรณ
นายแบบ: Joe@Red Modelling
เครดิต-volume
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ "VOTE" และ "SHARE"
‘นาคาแลนด์’ ดินแดนที่ไม่มีใครรู้จัก
42 VOTES (3.8/5 จาก 11 คน)
หากคุณเป็นเจ้าของนิตยสาร/โมเดลลิ่ง เอเจนซี่ ต้องการโปรโมท สามารถส่ง e-mail แจ้งทีมงานให้ตั้งค่า username ของคุณเป็น Official User ได้ที่ info@postjung.com โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
Comment ด้วย facebook