เหตุผลที่กรุงปารีสทำไมถึงไม่มีตึกระฟ้า
โพสท์โดย ไอ้คิ้วสวยลา-เดฟองซ์ (La Grande Arche de la Defense) ในปี 1956 รัฐบาลฝรั่งเศสได้อนุมัติให้สร้างสำนักงานที่ทันสมัย ล้ำยุคขึ้นที่ชานกรุงปารีส เพราะการควบคุมของผังเมืองปารีส ไม่อนุญาตให้ก่อสร้างอาคารสูง หลังจากมีตึกสูงแห่งแรก คือ มองต์ปาร์นาส์ส (Tour Montparnasse) แล้ว จึงเห็นข้อเสียของสภาพแวดล้อม ก็เลยมีการห้ามอาคารสูงอีก การสร้าง ลา-เดฟองซ์ โดยใช้เค้าโครง ผังเมืองของย่านช็องป์เซลิเซ่ เป็นหลัก คือ แนวเส้นตรงทางประวัติศาสตร์ L'Axe historique นั่นเอง ปัจจุบัน ลาเดฟองซ์ เป็นศูนย์ธุรกิจที่สำคัญที่สุดของยุโรป มีรัฐวิสาหกิจและสำนักงานระหว่างประเทศจำนวนกว่า 300 แห่ง มีตึกระฟ้า 40 หลัง คิดเป็นเนื้อที่ สำนักงาน 1.500.000 ตารางเมตร บนเนื้อที่ 150 เฮคตาร์
ปารีสได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พื้นที่ในชนบทขยับขยายออกไปเรื่อยๆ และมีการก่อสร้างที่อยู่อาศัยอย่างมากมาย ทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นของลา เดฟองซ์ (La Défense) ศูนย์กลางด้านธุรกิจของประเทศฝรั่งเศส ที่นับเป็นส่วนเดียวของเมือง ที่ยอมให้มีการสร้างอาคารสูงสมัยใหม่ขึ้นในเขตของกรุงปารีส ที่มีการอนุรักษ์ทางผังเมือง อย่างเข้มงวด แต่ด้วยการออกแบบวางผังที่ดี ทำให้สอดคล้องและส่งเสริมความงามของปารีส ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ด้วยแกนหลักของถนน (แนวเส้นตรงทางประวัติศาสตร์ L'Axe historique) เป็นมุมมองยาวตั้งแต่ ริมแม่น้ำแซน มาจนสุด ลา เดฟองซ์ ซึ่งมีตึกที่ออกแบบเป็นรูปตัวยูคว่ำ เลียนแบบประตูชัยในสมัยเก่านั่นเอง
ปารีสยังเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาไม่มีวันน่าเบื่อ จนสามารถเขียนถึงได้เป็นหนังสือเล่มใหญ่ทีเดียว ทุกซอกทุกมุมของปารีสมีสิ่งที่น่าสนใจ รอให้คนต่างถิ่นไปค้นพบและหลงเสน่ห์ได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งรับลมเย็นๆ ชมพระอาทิตย์ลับฟ้าด้านหลัง Pont des Arts มองมาจากพิพิธภัณฑ์ลูฟส์ (พระราชวังเก่า)จิบไวน์ขาวในผับย่านเขต18 ฟังเพลงแจ๊สยามราตรีที่ย่านนักศึกษา Quartier latin การล่องเรือชมเมือง แผงขายหนังสือเก่าบนกำแพงข้างถนนเลียบแม่น้ำแซน วิหารโนเตรอดาม พิพิธภัณฑ์ออร์เซ(สถานีรถไฟเก่า)และศูนย์ศิลปะฌอร์ช ปอมปิดู
ในอดีต ปารีสเคยจัดงานนิทรรศการนานาชาติขึ้น (พ.ศ. 2432) และได้มีการสร้างหอไอเฟล เพื่อเฉลิมฉลองการปฏิวัติฝรั่งเศส ครบรอบ 100 ปี เพื่อแสดงถึงศักยภาพของประเทศฝรั่งเศส ในด้านวิศวกรรมศาสตร์ แค่เพียง "ชั่วคราว"เท่านั้นในตอนแรก แต่สิ่งก่อสร้างชิ้นนี้ได้กลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกจนถึงปี พ.ศ. 2473 และกลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของกรุงปารีสไปโดยปริยาย จึงกลายเป็นสิ่งก่อสร้างสำคัญอันมีค่า และตั้งตระหง่านมาอย่างที่ไม่มีใครคิดจะไปรื้อทิ้ง หอไอเฟลนี้ตั้งอยู่บนชองป์ เดอ มารส์ บริเวณริมแม่น้ำแซน ส่วนในงานนิทรรศการนานาชาติ 1900 (พ.ศ. 2443) ก็ได้มีการเปิดตัวรถไฟฟ้าปารีสเป็น ครั้งแรก หลังจากนั้นก็ได้มีการจัดนิทรรศการและงานแสดงสินค้าต่างๆ มากมายซึ่งทำให้กรุงปารีสเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและดึงดูดชาวต่างชาติเป็น จำนวนมากทั้งในด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยี
รายละเอียดอ่านต่อได้ที่เวปครับ
ปารีสได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พื้นที่ในชนบทขยับขยายออกไปเรื่อยๆ และมีการก่อสร้างที่อยู่อาศัยอย่างมากมาย ทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นของลา เดฟองซ์ (La Défense) ศูนย์กลางด้านธุรกิจของประเทศฝรั่งเศส ที่นับเป็นส่วนเดียวของเมือง ที่ยอมให้มีการสร้างอาคารสูงสมัยใหม่ขึ้นในเขตของกรุงปารีส ที่มีการอนุรักษ์ทางผังเมือง อย่างเข้มงวด แต่ด้วยการออกแบบวางผังที่ดี ทำให้สอดคล้องและส่งเสริมความงามของปารีส ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ด้วยแกนหลักของถนน (แนวเส้นตรงทางประวัติศาสตร์ L'Axe historique) เป็นมุมมองยาวตั้งแต่ ริมแม่น้ำแซน มาจนสุด ลา เดฟองซ์ ซึ่งมีตึกที่ออกแบบเป็นรูปตัวยูคว่ำ เลียนแบบประตูชัยในสมัยเก่านั่นเอง
ปารีสยังเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาไม่มีวันน่าเบื่อ จนสามารถเขียนถึงได้เป็นหนังสือเล่มใหญ่ทีเดียว ทุกซอกทุกมุมของปารีสมีสิ่งที่น่าสนใจ รอให้คนต่างถิ่นไปค้นพบและหลงเสน่ห์ได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งรับลมเย็นๆ ชมพระอาทิตย์ลับฟ้าด้านหลัง Pont des Arts มองมาจากพิพิธภัณฑ์ลูฟส์ (พระราชวังเก่า)จิบไวน์ขาวในผับย่านเขต18 ฟังเพลงแจ๊สยามราตรีที่ย่านนักศึกษา Quartier latin การล่องเรือชมเมือง แผงขายหนังสือเก่าบนกำแพงข้างถนนเลียบแม่น้ำแซน วิหารโนเตรอดาม พิพิธภัณฑ์ออร์เซ(สถานีรถไฟเก่า)และศูนย์ศิลปะฌอร์ช ปอมปิดู
ในอดีต ปารีสเคยจัดงานนิทรรศการนานาชาติขึ้น (พ.ศ. 2432) และได้มีการสร้างหอไอเฟล เพื่อเฉลิมฉลองการปฏิวัติฝรั่งเศส ครบรอบ 100 ปี เพื่อแสดงถึงศักยภาพของประเทศฝรั่งเศส ในด้านวิศวกรรมศาสตร์ แค่เพียง "ชั่วคราว"เท่านั้นในตอนแรก แต่สิ่งก่อสร้างชิ้นนี้ได้กลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกจนถึงปี พ.ศ. 2473 และกลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของกรุงปารีสไปโดยปริยาย จึงกลายเป็นสิ่งก่อสร้างสำคัญอันมีค่า และตั้งตระหง่านมาอย่างที่ไม่มีใครคิดจะไปรื้อทิ้ง หอไอเฟลนี้ตั้งอยู่บนชองป์ เดอ มารส์ บริเวณริมแม่น้ำแซน ส่วนในงานนิทรรศการนานาชาติ 1900 (พ.ศ. 2443) ก็ได้มีการเปิดตัวรถไฟฟ้าปารีสเป็น ครั้งแรก หลังจากนั้นก็ได้มีการจัดนิทรรศการและงานแสดงสินค้าต่างๆ มากมายซึ่งทำให้กรุงปารีสเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและดึงดูดชาวต่างชาติเป็น จำนวนมากทั้งในด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยี
รายละเอียดอ่านต่อได้ที่เวปครับ
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ "VOTE" และ "SHARE"
เหตุผลที่กรุงปารีสทำไมถึงไม่มีตึกระฟ้า
65 VOTES (5/5 จาก 13 คน)
หากคุณเป็นเจ้าของนิตยสาร/โมเดลลิ่ง เอเจนซี่ ต้องการโปรโมท สามารถส่ง e-mail แจ้งทีมงานให้ตั้งค่า username ของคุณเป็น Official User ได้ที่ info@postjung.com โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ