อีกมุมหนึ่งของแพท ณปภา ผู้หญิงหัวใจแกร่ง ที่ใครๆอาจยังไม่รู้ ชีวิตจริงที่ยิ่งกว่าละคร
โพสท์โดยเป็นนางเอกมากฝีมือที่มักจะปรากฏในจอแก้วด้วยบทบาทสนุกสนาน เรียกเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมได้เสมอ แต่ใครจะรู้ว่า เบื้องลึกในชีวิตของเธอ จะต้องเผชิญกับเรื่องทุกข์ใจอะไรบ้าง ภายนอกที่สดใสร่าเริง แต่ภายในนั้นเธอต้องแบกรับภาระทุกอย่างของครอบครัว เป็นเสาหลักของบ้าน ถึงแม้จะโดนข่าวกระหน่ำซ้ำเติมมากแค่ใหน แต่เธอผู้นี้ก็ต้องยืนหยัดให้ได้ เพราะเธอมีสิ่งสำคัญที่ต้องรับผิดชอบ แพท ณปภา เผยชีวิตตัวเอง ต้องบอกว่าชีวิตจริงของเธอยิ่งกว่าละครที่เธอเล่น แม่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ พี่สาวพิการ เสาหลักของครอบครัวคือเธอคนเดียว ถึงแม้เธอจะได้รับบทเฮฮาแต่ใครจะรู้ว่าในใจเธอนั้นกำลังเศร้าและร้องไห้ แพท เล่าถึงเรื่องอาการป่วยของคุณแม่เธอว่า คุณแม่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์
คุณแม่ของแพท ณปภา เป็นคุณแม่ที่มักไปไหนมาไหนกับลูกสาวอยู่บ่อย ๆ ตั้งแต่เธอเพิ่งเข้าวงการบันเทิงใหม่ ๆ คุณแม่เป็นผู้หญิงเก่งที่สามารถทำธุรกิจเพื่อเลี้ยงลูก ๆ ได้อย่างไม่ลำบาก แต่ใครจะรู้ว่าภายใต้ความแกร่งของคุณแม่ กลับมีความอ่อนแอซ่อนอยู่ข้างใน
แพท ณปภา คือลูกสาวคนสุดท้องของครอบครัว เธอมีพี่น้องอีก 4 คน คือพี่ชายคนโต ที่ไปมีครอบครัวอยู่ที่ยูเครน, พี่ชายคนที่ 2 ตั้งแต่มีครอบครัวก็แยกออกไปไม่ได้ติดต่อกันอีก, พี่สาวคนที่ 3 มีครอบครัวและย้ายไปอยู่ยูเครน แต่ฝากหลานไว้ให้เลี้ยง 1 คน ขณะที่พี่สาวคนที่ 4 ก็พิการและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย หน้าที่ในการดูแลพี่สาวคนที่ 4 จึงเป็นหน้าที่ของแพทมาตั้งแต่เด็ก ๆ
ก่อนหน้านี้ในบ้านซึ่งอยู่กันแค่ คุณพ่อ คุณแม่ พี่สาวที่พิการ แพท หลาน และแม่บ้าน ยังคงอบอวลไปด้วยความสุข ในวันที่อยู่กันพร้อมหน้ามักจะมีญาติ ๆ แวะเวียนมาเยี่ยมอยู่เสมอ แต่แล้ววันหนึ่งคุณพ่อของแพทก็แยกออกไปมีครอบครัวใหม่ แม้ว่าลูก ๆ จะเป็นห่วงความรู้สึกของคุณแม่ แต่คุณแม่ก็แสดงท่าทีปกติมาตลอด โดยที่ยังคงร่าเริงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ลูก ๆ จึงสบายใจมากขึ้น
แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นเหมือนภาพภายนอกที่เห็น เมื่อวันหนึ่งคุณแม่ของแพทกลับมีอาการหงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน ขี้ลืมผิดปกติ และจู่ ๆ คุณแม่ของแพทก็ลืมเรื่องราวที่เพิ่งคุยกันไปเมื่อ 5 - 10 นาทีก่อน แต่กลับจำเรื่องราวเก่า ๆ เมื่อ 30 - 40 ปีก่อนได้ดี อีกทั้งยังมักเล่าเรื่องราวเดิม ๆ สมัยก่อนซ้ำไปซ้ำมาเป็นประจำ อีกทั้งยังอาการหนักถึงขนาดที่ไม่สามารถนึกชื่อของแพทออกได้ เพียงแค่จำหน้าได้เท่านั้น และถ้าหากไปถามให้นึกอะไรก็ตาม คุณแม่จะมีอาการหงุดหงิด ร้องไห้ และโมโหตัวเอง ที่ไม่สามารถนึกเรื่องราวต่าง ๆ ออกได้
เมื่ออาการของแม่แปลกไป แพท จึงพาคุณแม่ไปพบแพทย์ และคุณหมอก็บอกกับเธอว่า คุณแม่ป่วยเป็น "โรคอัลไซเมอร์" หรือ โรคสมองเสื่อม ซึ่งสาเหตุของการเกิดโรคนั้น ส่วนหนึ่งมาจากความเครียดสะสม โดยเฉพาะเรื่องในครอบครัว เพราะตลอดเวลาที่พูดคุยกับคุณหมอ คุณแม่ของแพทพูดวกไปวนมาแต่เรื่องเดิม ๆ คือเรื่องในครอบครัว สิ่งที่ลูก ๆ คิดมาตลอดเวลาว่าคุณแม่เป็นคนเข้มแข็ง และสามารถผ่านทุกอย่างมาได้ด้วยรอยยิ้มนั้น แท้จริงแล้วคุณแม่ของเธอเพียงเก็บความรู้สึกต่าง ๆ เอาไว้ข้างใน จนกระทั่งวันหนึ่งความรู้สึกเหล่านั้นก็ระเบิดออกมา คุณแม่จึงต้องมีอาการอย่างที่เห็นแม้จะดูแลคุณแม่อย่างดีขนาดไหน แต่เมื่อแพทต้องออกไปทำงาน เรื่องที่ทำให้เธอต้องเสียใจที่สุดในชีวิตก็เกิดขึ้น เพราะคุณแม่ของแพทหายออกไปจากบ้าน! แพทที่รู้ข่าวก็กังวลใจจนต้องรีบกลับจากทำงานเพื่อมาตามหาคุณแม่ เธอค่อย ๆ สอบถามไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเจอคนขับรถแท็กซี่บอกกับเธอว่าเห็นคุณแม่ของเธอมาเรียกรถไปดิโอลด์ สยาม และมีรถแท็กซี่คันอื่นพาไป น้องสาวของแพทจึงออกไปตามหาคุณแม่ที่ดิโอลด์ สยาม แต่ก็ไม่พบ แพททำอะไรไม่ได้อีก นอกจากรอ รอ และก็รอ เท่านั้น...
ในที่สุดคุณแม่ของแพทก็กลับมาพร้อมกับรถสามล้อคันหนึ่ง ที่คนขับบอกว่า คุณแม่เรียกรถให้เขาพาไปส่งที่ถนนตก ซึ่งเป็นบ้านของคุณแม่สมัยสาว ๆ ก่อนที่จะงง ๆ ทำอะไรไม่ถูก จากนั้นก็มีคนเดินเข้ามาทักบอกว่าคุณแม่ไม่ได้อยู่ซอยนั้นอีกแล้ว แต่อยู่ที่ซอยแฉล้ม 12 คนขับรถสามล้อจึงพาคุณแม่มาส่งคืนให้อย่างปลอดภัย ซึ่งแพทบอกว่าเธอตื่นเต้นและเสียใจมากที่คุณแม่ต้องมาหายไปทั้ง ๆ ที่มีอาการของโรคอัลไซเมอร์อยู่ "แพทรู้เลยว่า ในชีวิตนี้แพทไม่เคยเสียใจขนาดนี้เลย"
แม้จะอยากให้คุณแม่หายป่วย แต่วิธีการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันดูจะไม่ใช่ทางเลือกที่ แพท ณปภา ต้องการ เพราะเธอบอกว่า ยาที่คุณหมอสั่งให้คุณแม่รับประทานนั้น มีอาการข้างเคียงที่ทำให้คุณแม่เบลอ ๆ ตาลอย และเดินไม่ไหว อีกทั้งคุณหมออยากให้คุณแม่ของเธอรับการรักษาที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการ แต่คุณแม่กลับเก็บของหนีออกโรงพยาบาลทุกครั้งที่มีโอกาส แพทจึงตัดสินใจจะพาคุณแม่กลับมาอยู่บ้านเพื่อดูแลเอง โดยไม่พึ่งยาแผนปัจจุบันอีกต่อไป มีเพียงแค่ยาจีนที่คุณลุงนำมาให้คุณแม่รับประทานเพื่อบำรุงปลายประสาทเท่านั้น ซึ่งจนถึงปัจจุบัน คุณแม่ของแพทก็ไม่ได้ไปหาหมอมาแล้วเกือบ 2 ปี
เมื่อย้อนกลับมาถามถึงเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัว ปมเหตุอาการป่วยของคุณแม่ แพทถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เพราะเธอบอกว่า ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวของเธอมีอยู่เยอะ แต่เธอก็ไม่ต้องการอะไรเลยจากพี่ ๆ ทุกคน ขอเพียงแค่อย่าสร้างปัญหาให้เธอก็พอ "แม่คนเดียวแพทดูแลได้ ถ้ารักแม่จริง ๆ ขอแค่ใจค่ะ แพทไม่เคยขอเงินพี่น้องเลยตั้งแต่จำความได้ แพทหาเงินของแพทได้ แต่ถ้าใจคุณรักแม่ ก็แค่มาดูแลในส่วนของคุณก็พอ ทำไม่อะแม่คนเดียวเลี้ยงลูก5คนยังเลี้ยงได้ แต่นี่เรามีกันตั้ง5คนอะ เราเลี้ยงแม่คนเดียวไม่ได้เหรอ"
แพทยอมรับว่าค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมด เป็นภาระของเธอเพียงคนเดียว แต่ยังโชคดีที่ในช่วงเวลาที่คุณแม่ยังสติสัมปชัญญะครบถ้วน ได้เซ็นโอนอพาร์ทเม้นท์ที่มีไว้ให้เช่า เป็นชื่อของเธอ เธอจึงเอารายได้จากส่วนนี้มาดูแลแม่และคนในครอบครัวได้ รวมทั้งใช้เงินส่วนตัวมาสมทบเข้าไปด้วย เมื่อถามว่าทั้งหมดที่ทำอยู่นี่ เหนื่อยบ้างไหม แพทตอบว่า "เหนื่อยค่ะ แต่ไหว"
แม้จะเป็นปัญหาหนักในครอบครัวที่แพทเก็บไว้ในใ
คุณแม่ของแพท ณปภา เป็นคุณแม่ที่มักไปไหนมาไหนกับลูกสาวอยู่บ่อย ๆ ตั้งแต่เธอเพิ่งเข้าวงการบันเทิงใหม่ ๆ คุณแม่เป็นผู้หญิงเก่งที่สามารถทำธุรกิจเพื่อเลี้ยงลูก ๆ ได้อย่างไม่ลำบาก แต่ใครจะรู้ว่าภายใต้ความแกร่งของคุณแม่ กลับมีความอ่อนแอซ่อนอยู่ข้างใน
แพท ณปภา คือลูกสาวคนสุดท้องของครอบครัว เธอมีพี่น้องอีก 4 คน คือพี่ชายคนโต ที่ไปมีครอบครัวอยู่ที่ยูเครน, พี่ชายคนที่ 2 ตั้งแต่มีครอบครัวก็แยกออกไปไม่ได้ติดต่อกันอีก, พี่สาวคนที่ 3 มีครอบครัวและย้ายไปอยู่ยูเครน แต่ฝากหลานไว้ให้เลี้ยง 1 คน ขณะที่พี่สาวคนที่ 4 ก็พิการและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย หน้าที่ในการดูแลพี่สาวคนที่ 4 จึงเป็นหน้าที่ของแพทมาตั้งแต่เด็ก ๆ
ก่อนหน้านี้ในบ้านซึ่งอยู่กันแค่ คุณพ่อ คุณแม่ พี่สาวที่พิการ แพท หลาน และแม่บ้าน ยังคงอบอวลไปด้วยความสุข ในวันที่อยู่กันพร้อมหน้ามักจะมีญาติ ๆ แวะเวียนมาเยี่ยมอยู่เสมอ แต่แล้ววันหนึ่งคุณพ่อของแพทก็แยกออกไปมีครอบครัวใหม่ แม้ว่าลูก ๆ จะเป็นห่วงความรู้สึกของคุณแม่ แต่คุณแม่ก็แสดงท่าทีปกติมาตลอด โดยที่ยังคงร่าเริงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ลูก ๆ จึงสบายใจมากขึ้น
แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นเหมือนภาพภายนอกที่เห็น เมื่อวันหนึ่งคุณแม่ของแพทกลับมีอาการหงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน ขี้ลืมผิดปกติ และจู่ ๆ คุณแม่ของแพทก็ลืมเรื่องราวที่เพิ่งคุยกันไปเมื่อ 5 - 10 นาทีก่อน แต่กลับจำเรื่องราวเก่า ๆ เมื่อ 30 - 40 ปีก่อนได้ดี อีกทั้งยังมักเล่าเรื่องราวเดิม ๆ สมัยก่อนซ้ำไปซ้ำมาเป็นประจำ อีกทั้งยังอาการหนักถึงขนาดที่ไม่สามารถนึกชื่อของแพทออกได้ เพียงแค่จำหน้าได้เท่านั้น และถ้าหากไปถามให้นึกอะไรก็ตาม คุณแม่จะมีอาการหงุดหงิด ร้องไห้ และโมโหตัวเอง ที่ไม่สามารถนึกเรื่องราวต่าง ๆ ออกได้
เมื่ออาการของแม่แปลกไป แพท จึงพาคุณแม่ไปพบแพทย์ และคุณหมอก็บอกกับเธอว่า คุณแม่ป่วยเป็น "โรคอัลไซเมอร์" หรือ โรคสมองเสื่อม ซึ่งสาเหตุของการเกิดโรคนั้น ส่วนหนึ่งมาจากความเครียดสะสม โดยเฉพาะเรื่องในครอบครัว เพราะตลอดเวลาที่พูดคุยกับคุณหมอ คุณแม่ของแพทพูดวกไปวนมาแต่เรื่องเดิม ๆ คือเรื่องในครอบครัว สิ่งที่ลูก ๆ คิดมาตลอดเวลาว่าคุณแม่เป็นคนเข้มแข็ง และสามารถผ่านทุกอย่างมาได้ด้วยรอยยิ้มนั้น แท้จริงแล้วคุณแม่ของเธอเพียงเก็บความรู้สึกต่าง ๆ เอาไว้ข้างใน จนกระทั่งวันหนึ่งความรู้สึกเหล่านั้นก็ระเบิดออกมา คุณแม่จึงต้องมีอาการอย่างที่เห็นแม้จะดูแลคุณแม่อย่างดีขนาดไหน แต่เมื่อแพทต้องออกไปทำงาน เรื่องที่ทำให้เธอต้องเสียใจที่สุดในชีวิตก็เกิดขึ้น เพราะคุณแม่ของแพทหายออกไปจากบ้าน! แพทที่รู้ข่าวก็กังวลใจจนต้องรีบกลับจากทำงานเพื่อมาตามหาคุณแม่ เธอค่อย ๆ สอบถามไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเจอคนขับรถแท็กซี่บอกกับเธอว่าเห็นคุณแม่ของเธอมาเรียกรถไปดิโอลด์ สยาม และมีรถแท็กซี่คันอื่นพาไป น้องสาวของแพทจึงออกไปตามหาคุณแม่ที่ดิโอลด์ สยาม แต่ก็ไม่พบ แพททำอะไรไม่ได้อีก นอกจากรอ รอ และก็รอ เท่านั้น...
ในที่สุดคุณแม่ของแพทก็กลับมาพร้อมกับรถสามล้อคันหนึ่ง ที่คนขับบอกว่า คุณแม่เรียกรถให้เขาพาไปส่งที่ถนนตก ซึ่งเป็นบ้านของคุณแม่สมัยสาว ๆ ก่อนที่จะงง ๆ ทำอะไรไม่ถูก จากนั้นก็มีคนเดินเข้ามาทักบอกว่าคุณแม่ไม่ได้อยู่ซอยนั้นอีกแล้ว แต่อยู่ที่ซอยแฉล้ม 12 คนขับรถสามล้อจึงพาคุณแม่มาส่งคืนให้อย่างปลอดภัย ซึ่งแพทบอกว่าเธอตื่นเต้นและเสียใจมากที่คุณแม่ต้องมาหายไปทั้ง ๆ ที่มีอาการของโรคอัลไซเมอร์อยู่ "แพทรู้เลยว่า ในชีวิตนี้แพทไม่เคยเสียใจขนาดนี้เลย"
แม้จะอยากให้คุณแม่หายป่วย แต่วิธีการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันดูจะไม่ใช่ทางเลือกที่ แพท ณปภา ต้องการ เพราะเธอบอกว่า ยาที่คุณหมอสั่งให้คุณแม่รับประทานนั้น มีอาการข้างเคียงที่ทำให้คุณแม่เบลอ ๆ ตาลอย และเดินไม่ไหว อีกทั้งคุณหมออยากให้คุณแม่ของเธอรับการรักษาที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการ แต่คุณแม่กลับเก็บของหนีออกโรงพยาบาลทุกครั้งที่มีโอกาส แพทจึงตัดสินใจจะพาคุณแม่กลับมาอยู่บ้านเพื่อดูแลเอง โดยไม่พึ่งยาแผนปัจจุบันอีกต่อไป มีเพียงแค่ยาจีนที่คุณลุงนำมาให้คุณแม่รับประทานเพื่อบำรุงปลายประสาทเท่านั้น ซึ่งจนถึงปัจจุบัน คุณแม่ของแพทก็ไม่ได้ไปหาหมอมาแล้วเกือบ 2 ปี
เมื่อย้อนกลับมาถามถึงเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัว ปมเหตุอาการป่วยของคุณแม่ แพทถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เพราะเธอบอกว่า ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวของเธอมีอยู่เยอะ แต่เธอก็ไม่ต้องการอะไรเลยจากพี่ ๆ ทุกคน ขอเพียงแค่อย่าสร้างปัญหาให้เธอก็พอ "แม่คนเดียวแพทดูแลได้ ถ้ารักแม่จริง ๆ ขอแค่ใจค่ะ แพทไม่เคยขอเงินพี่น้องเลยตั้งแต่จำความได้ แพทหาเงินของแพทได้ แต่ถ้าใจคุณรักแม่ ก็แค่มาดูแลในส่วนของคุณก็พอ ทำไม่อะแม่คนเดียวเลี้ยงลูก5คนยังเลี้ยงได้ แต่นี่เรามีกันตั้ง5คนอะ เราเลี้ยงแม่คนเดียวไม่ได้เหรอ"
แพทยอมรับว่าค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมด เป็นภาระของเธอเพียงคนเดียว แต่ยังโชคดีที่ในช่วงเวลาที่คุณแม่ยังสติสัมปชัญญะครบถ้วน ได้เซ็นโอนอพาร์ทเม้นท์ที่มีไว้ให้เช่า เป็นชื่อของเธอ เธอจึงเอารายได้จากส่วนนี้มาดูแลแม่และคนในครอบครัวได้ รวมทั้งใช้เงินส่วนตัวมาสมทบเข้าไปด้วย เมื่อถามว่าทั้งหมดที่ทำอยู่นี่ เหนื่อยบ้างไหม แพทตอบว่า "เหนื่อยค่ะ แต่ไหว"
แม้จะเป็นปัญหาหนักในครอบครัวที่แพทเก็บไว้ในใ
Credit: รายการวีไอพี วู๊ดดี้ เกิดมาคุย
Tags ที่เกี่ยวข้อง : นักแสดง
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ "VOTE" และ "SHARE"
อีกมุมหนึ่งของแพท ณปภา ผู้หญิงหัวใจแกร่ง ที่ใครๆอาจยังไม่รู้ ชีวิตจริงที่ยิ่งกว่าละคร
112 VOTES (4.7/5 จาก 24 คน)
หากคุณเป็นเจ้าของนิตยสาร/โมเดลลิ่ง เอเจนซี่ ต้องการโปรโมท สามารถส่ง e-mail แจ้งทีมงานให้ตั้งค่า username ของคุณเป็น Official User ได้ที่ info@postjung.com โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ