ฌาธาม สอบผ่าน ตีบทแตกละครเวที เพราะรัก...ชั่วฟ้าดินสลาย นักวิจารณ์ชื่อดัง การันตรีฝีมือลงเว็ปดัง
โพสท์โดยFw เห็นทีนักร้องสุดเพี้ยนเจ้าของฉายา "เลดีกาก้าเมืองไทย" กับผลงานเพลง change my look กับคอนเซ็บ "ทำไมผู้ชายไม่ใส่รองเท้าส้นสูง" จะสอบผ่านในด้านการแสดง กับผลงานล่าสุด ละครเวที เพราะรัก...ชั่วฟ้าดินสลาย ที่รับบทนำ นพคุณ นักศึกษาปีสี่ที่ทำ finals project เรื่องชั่วฟ้าดินสลาย ฌาธามตีบทแตกถึงขั้นนักวิจารณ์ละครชื่อดังให้คะแนนเต็ม
บทวิจารณ์
บทวิจารณ์ เพราะรัก ชั่วฟ้าดินสลาย จาก .. Jit PhokaewBECAUSE OF ETERNAL LOVE (2014, Pisal Pattanapeeradech, stage play, A+10)เพราะรัก ชั่วฟ้าดินสลาย (2014, พิศาล พัฒนพีระเดช, A+10)SPOILERS ALERTงานเขียนนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาของละครเวทีเรื่องนี้ คนที่ยังไม่ได้ดูละครเวทีเรื่องนี้ ยังไม่ควรอ่านครับดูละครเวทีเรื่องนี้แล้วนึกถึงสิ่งต่างๆดังต่อไปนี้1.ละครเรื่องนี้อาจจะแบ่งออกได้เป็นสองส่วนใหญ่ๆ ซึ่งก็คือส่วนที่เป็นเรื่องของการซ้อมละคร กับส่วนที่เป็นเรื่อง “ชั่วฟ้าดินสลาย” โดยเราจะชอบส่วนที่เป็นการซ้อมละครมากๆ ในขณะที่ส่วนที่เป็นเรื่อง “ชั่วฟ้าดินสลาย” เราจะเบื่อๆหน่อย เพราะเราเคยดูหนังเรื่องชั่วฟ้าดินสลายมาแล้วทั้งเวอร์ชั่นของมารุตในปี 1955 และเวอร์ชั่นของหม่อมน้อย พอเรารู้เนื้อเรื่องในส่วนนี้มาดีแล้ว เราก็เลยค่อนข้างเบื่อกับการดูเนื้อเรื่องเดิมๆตรงส่วนนี้อีกในแง่นึงเราก็เลยชอบมากที่ละครเวทีเรื่องนี้ไม่ได้เอาชั่วฟ้าดินสลายมาทำตรงๆ แต่มีเรื่องของกลุ่มนักศึกษาเข้ามาด้วย เพราะเรื่องราวของกลุ่มนักศึกษาเป็นส่วนที่เราว่ามันสนุกดีและเราก็ชอบส่วนนี้มาก2.ในส่วนของเรื่องราวของนักศึกษานั้น เราชอบเรื่องราวของนพคุณ (ธามม์ ฌาธาม) มากที่สุด ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าลักษณะที่ดูตุ้งติ้งของตัวละครตัวนี้ทำให้เรา identify ด้วยได้ในระดับหนึ่ง สิ่งที่เราชอบในตัวละครตัวนี้ก็มีเช่น2.1 แว่บแรกที่ตัวละครตัวนี้โผล่ออกมา เรานึกว่าตัวละครตัวนี้เป็นเพียงแค่กะเทยแร่ดๆ ส่วนตัวละครฝุ่นดิน (เมธาวี วิริยา) ก็เป็นเพียงนักศึกษาสาวโง่ๆ แต่พอเนื้อเรื่องดำเนินไป เราก็พบว่านพคุณเป็นคนที่เอาจริงเอาจังกับการทำงานมาก และฝุ่นดินก็เป็นนักแสดงที่มีฝีมือมาก เราก็เลยชอบที่ first impression ในทางลบของเราที่มีต่อตัวละครสองตัวนี้ มันถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิงเมื่อเนื้อเรื่องดำเนินไป2.2 ละครเวทีเรื่องนี้นำเสนอความสัมพันธ์ของนพคุณที่มีต่อตัวละครทุกตัวได้อย่างน่าสนใจ ทั้งความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคนรัก (ธีรภัทร โลหนันทน์), ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฝุ่นดินที่เป็นเพื่อน, ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับชายที่เขาแอบชอบ (นรินทร์ธัช จันทรา), ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับอาจารย์/คนเขียนบท (พิศาล พัฒนพีระเดช) และความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ stage hand โดยที่ความสัมพันธ์ระหว่างนพคุณกับตัวละครเหล่านี้จะมีการเปลี่ยนแปลงไปในระหว่างที่เนื้อเรื่องดำเนินไป2.3 ในส่วนที่เป็นความสัมพันธ์ระหว่างนพคุณกับ stage hand เราจะชอบมากในระดับหนึ่ง เพราะความสัมพันธ์ตรงจุดนี้มันดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ เราก็เลยชอบมากที่ละครเวทีเรื่องนี้ให้ความสำคัญกับจุดเล็กๆน้อยๆตรงนี้ด้วย เราจะสังเกตได้ว่านพคุณไม่ได้ช่วยเหลือ stage hand ทำงานในตอนต้นเรื่อง แต่พอในช่วงท้ายเรื่อง เขาก็ช่วยเหลือ stage hand ทำงานด้วยความเต็มใจ เราชอบการนำเสนอพัฒนาการเล็กๆน้อยๆแบบนี้ของตัวละครความสัมพันธ์ระหว่างนพคุณกับ stage hand ทำให้เรานึกถึงประเด็นหนึ่งที่เราชอบมากในละครเวทีเรื่องนี้ นั่นก็คือ “หน้าที่” ของคนทำงานแต่ละคน เราไม่แน่ใจเหมือนกันว่าละครเวทีเรื่องนี้ต้องการบอกอะไรคนดูตรงจุดนี้ แต่เราว่ามันน่าสนใจดีที่มันมี conflicts หลายอย่างเกี่ยวกับหน้าที่ในละครเวทีเรื่องนี้ โดยเฉพาะการที่นพคุณมีหน้าที่เป็นผู้กำกับ แต่ดูเหมือนจะไม่อยากทำหน้าที่นี้กับชายคนรักของตัวเอง และพยายามผลักภาระให้ครูโชทำหน้าที่นี้แทน แต่ในขณะเดียวกัน นพคุณก็ไม่ยอมช่วย stage hand ทำงานในช่วงต้นเรื่อง เพราะอาจจะมองว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของเขา ตัวละครนพคุณก็เลยน่าสนใจดีในแง่ที่ว่า ในช่วงต้นเรื่อง เขาไม่ยอมทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสมบูรณ์ แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ไม่ยอมช่วยคนอื่นถ้าหากมันไม่ใช่หน้าที่ของเขา2.4 ความสัมพันธ์ระหว่างนพคุณกับวายเป็นอะไรที่เจ็บปวดมากๆสำหรับเรา จนเราไม่แน่ใจว่า เราอาจจะชอบละครเวทีเรื่องนี้มากขึ้นหรือเปล่า ถ้าหากมันจบลงตรงจุดที่นพคุณรู้ความจริงว่าวายมีเซ็กส์กับฝุ่นดินในละครเวทีเรื่องนี้ ฉากที่ peak ที่สุดสำหรับเรา หรือฉากที่เราลุ้นมากที่สุด คือฉากที่วายกับฝุ่นดินซ้อมบทด้วยกัน แล้วมีเซ็กส์กัน เราว่ามันคือฉาก climax ของเราในละครเวทีเรื่องนี้ แล้วพอนพคุณรู้ความจริงในเรื่องนี้ เราก็เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของนพคุณมากๆในฉากนั้น ว่าจะรู้สึกเจ็บปวดแค่ไหน แล้วฉากนั้นก็จบลงด้วยการที่นพคุณดูเหมือนจะพยายามทำใจยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น แล้วลุกขึ้นยืนเพื่อดำเนินชีวิตต่อไป/ทำละครต่อไปตอนที่เราดูฉากนี้ เราพบว่าเรารู้สึกสองจิตสองใจอย่างมากๆ เพราะในใจหนึ่งเราก็ภาวนาว่า “อย่าเพิ่งจบนะ อย่าเพิ่งจบนะ ฉันยังอยากรู้ว่าตัวละครจะมีชีวิตอย่างไรต่อไป” แต่ในอีกใจหนึ่ง เราก็รู้ดีว่า ถ้าหากละครมันจบลงตรงฉากนี้เลย เราจะชอบละครเรื่องนี้มากขึ้น เพราะเราเป็นคนที่ชอบอารมณ์เจ็บปวด/โกรธแค้น/ทุกข์ทรมานในหนังและละครเวทีน่ะ มันเป็นรสนิยมส่วนตัวของเรา เรามักจะอินกับอะไรทำนองนี้ เพราะฉะนั้นเราก็เลยรู้สึกว่า ถ้าหากละครมันจบลงตรงฉากนี้เลย เราก็จะรู้สึกเหมือนกับว่าละครเรื่องนี้เอามีดมาแทงเราที่หัวใจ แล้วก็จบไปเลย แล้วเราก็จะเดินออกจากโรงละครไปพร้อมกับมีมีดปักคาใจเราอยู่ แล้วเราก็จะฝังใจกับละครเรื่องนี้ไปอีกนาน แต่ละครเรื่องนี้ไม่ได้จบลงที่จุดนั้น เพราะจริงๆแล้วดูเหมือนว่าละครมันยังต้องดำเนินต่อไป เพื่อที่คนดูจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครในช่วงท้าย ซึ่งอาจจะทำให้เราเข้าใจธีมหรือประเด็นของละครเรื่องนี้ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์มากขึ้น เพราะฉะนั้นเราก็เลยไม่คิดว่ามันผิดแต่อย่างใดที่ละครเรื่องนี้ไม่ได้จบลงตรงจุดที่เราชอบ แต่ในแง่ของ “อารมณ์ส่วนตัว” แล้ว เรารู้สึกว่าสิ่งที่ช่วงท้าย
บทวิจารณ์
บทวิจารณ์ เพราะรัก ชั่วฟ้าดินสลาย จาก .. Jit PhokaewBECAUSE OF ETERNAL LOVE (2014, Pisal Pattanapeeradech, stage play, A+10)เพราะรัก ชั่วฟ้าดินสลาย (2014, พิศาล พัฒนพีระเดช, A+10)SPOILERS ALERTงานเขียนนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาของละครเวทีเรื่องนี้ คนที่ยังไม่ได้ดูละครเวทีเรื่องนี้ ยังไม่ควรอ่านครับดูละครเวทีเรื่องนี้แล้วนึกถึงสิ่งต่างๆดังต่อไปนี้1.ละครเรื่องนี้อาจจะแบ่งออกได้เป็นสองส่วนใหญ่ๆ ซึ่งก็คือส่วนที่เป็นเรื่องของการซ้อมละคร กับส่วนที่เป็นเรื่อง “ชั่วฟ้าดินสลาย” โดยเราจะชอบส่วนที่เป็นการซ้อมละครมากๆ ในขณะที่ส่วนที่เป็นเรื่อง “ชั่วฟ้าดินสลาย” เราจะเบื่อๆหน่อย เพราะเราเคยดูหนังเรื่องชั่วฟ้าดินสลายมาแล้วทั้งเวอร์ชั่นของมารุตในปี 1955 และเวอร์ชั่นของหม่อมน้อย พอเรารู้เนื้อเรื่องในส่วนนี้มาดีแล้ว เราก็เลยค่อนข้างเบื่อกับการดูเนื้อเรื่องเดิมๆตรงส่วนนี้อีกในแง่นึงเราก็เลยชอบมากที่ละครเวทีเรื่องนี้ไม่ได้เอาชั่วฟ้าดินสลายมาทำตรงๆ แต่มีเรื่องของกลุ่มนักศึกษาเข้ามาด้วย เพราะเรื่องราวของกลุ่มนักศึกษาเป็นส่วนที่เราว่ามันสนุกดีและเราก็ชอบส่วนนี้มาก2.ในส่วนของเรื่องราวของนักศึกษานั้น เราชอบเรื่องราวของนพคุณ (ธามม์ ฌาธาม) มากที่สุด ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าลักษณะที่ดูตุ้งติ้งของตัวละครตัวนี้ทำให้เรา identify ด้วยได้ในระดับหนึ่ง สิ่งที่เราชอบในตัวละครตัวนี้ก็มีเช่น2.1 แว่บแรกที่ตัวละครตัวนี้โผล่ออกมา เรานึกว่าตัวละครตัวนี้เป็นเพียงแค่กะเทยแร่ดๆ ส่วนตัวละครฝุ่นดิน (เมธาวี วิริยา) ก็เป็นเพียงนักศึกษาสาวโง่ๆ แต่พอเนื้อเรื่องดำเนินไป เราก็พบว่านพคุณเป็นคนที่เอาจริงเอาจังกับการทำงานมาก และฝุ่นดินก็เป็นนักแสดงที่มีฝีมือมาก เราก็เลยชอบที่ first impression ในทางลบของเราที่มีต่อตัวละครสองตัวนี้ มันถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิงเมื่อเนื้อเรื่องดำเนินไป2.2 ละครเวทีเรื่องนี้นำเสนอความสัมพันธ์ของนพคุณที่มีต่อตัวละครทุกตัวได้อย่างน่าสนใจ ทั้งความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคนรัก (ธีรภัทร โลหนันทน์), ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฝุ่นดินที่เป็นเพื่อน, ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับชายที่เขาแอบชอบ (นรินทร์ธัช จันทรา), ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับอาจารย์/คนเขียนบท (พิศาล พัฒนพีระเดช) และความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ stage hand โดยที่ความสัมพันธ์ระหว่างนพคุณกับตัวละครเหล่านี้จะมีการเปลี่ยนแปลงไปในระหว่างที่เนื้อเรื่องดำเนินไป2.3 ในส่วนที่เป็นความสัมพันธ์ระหว่างนพคุณกับ stage hand เราจะชอบมากในระดับหนึ่ง เพราะความสัมพันธ์ตรงจุดนี้มันดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ เราก็เลยชอบมากที่ละครเวทีเรื่องนี้ให้ความสำคัญกับจุดเล็กๆน้อยๆตรงนี้ด้วย เราจะสังเกตได้ว่านพคุณไม่ได้ช่วยเหลือ stage hand ทำงานในตอนต้นเรื่อง แต่พอในช่วงท้ายเรื่อง เขาก็ช่วยเหลือ stage hand ทำงานด้วยความเต็มใจ เราชอบการนำเสนอพัฒนาการเล็กๆน้อยๆแบบนี้ของตัวละครความสัมพันธ์ระหว่างนพคุณกับ stage hand ทำให้เรานึกถึงประเด็นหนึ่งที่เราชอบมากในละครเวทีเรื่องนี้ นั่นก็คือ “หน้าที่” ของคนทำงานแต่ละคน เราไม่แน่ใจเหมือนกันว่าละครเวทีเรื่องนี้ต้องการบอกอะไรคนดูตรงจุดนี้ แต่เราว่ามันน่าสนใจดีที่มันมี conflicts หลายอย่างเกี่ยวกับหน้าที่ในละครเวทีเรื่องนี้ โดยเฉพาะการที่นพคุณมีหน้าที่เป็นผู้กำกับ แต่ดูเหมือนจะไม่อยากทำหน้าที่นี้กับชายคนรักของตัวเอง และพยายามผลักภาระให้ครูโชทำหน้าที่นี้แทน แต่ในขณะเดียวกัน นพคุณก็ไม่ยอมช่วย stage hand ทำงานในช่วงต้นเรื่อง เพราะอาจจะมองว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของเขา ตัวละครนพคุณก็เลยน่าสนใจดีในแง่ที่ว่า ในช่วงต้นเรื่อง เขาไม่ยอมทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสมบูรณ์ แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ไม่ยอมช่วยคนอื่นถ้าหากมันไม่ใช่หน้าที่ของเขา2.4 ความสัมพันธ์ระหว่างนพคุณกับวายเป็นอะไรที่เจ็บปวดมากๆสำหรับเรา จนเราไม่แน่ใจว่า เราอาจจะชอบละครเวทีเรื่องนี้มากขึ้นหรือเปล่า ถ้าหากมันจบลงตรงจุดที่นพคุณรู้ความจริงว่าวายมีเซ็กส์กับฝุ่นดินในละครเวทีเรื่องนี้ ฉากที่ peak ที่สุดสำหรับเรา หรือฉากที่เราลุ้นมากที่สุด คือฉากที่วายกับฝุ่นดินซ้อมบทด้วยกัน แล้วมีเซ็กส์กัน เราว่ามันคือฉาก climax ของเราในละครเวทีเรื่องนี้ แล้วพอนพคุณรู้ความจริงในเรื่องนี้ เราก็เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของนพคุณมากๆในฉากนั้น ว่าจะรู้สึกเจ็บปวดแค่ไหน แล้วฉากนั้นก็จบลงด้วยการที่นพคุณดูเหมือนจะพยายามทำใจยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น แล้วลุกขึ้นยืนเพื่อดำเนินชีวิตต่อไป/ทำละครต่อไปตอนที่เราดูฉากนี้ เราพบว่าเรารู้สึกสองจิตสองใจอย่างมากๆ เพราะในใจหนึ่งเราก็ภาวนาว่า “อย่าเพิ่งจบนะ อย่าเพิ่งจบนะ ฉันยังอยากรู้ว่าตัวละครจะมีชีวิตอย่างไรต่อไป” แต่ในอีกใจหนึ่ง เราก็รู้ดีว่า ถ้าหากละครมันจบลงตรงฉากนี้เลย เราจะชอบละครเรื่องนี้มากขึ้น เพราะเราเป็นคนที่ชอบอารมณ์เจ็บปวด/โกรธแค้น/ทุกข์ทรมานในหนังและละครเวทีน่ะ มันเป็นรสนิยมส่วนตัวของเรา เรามักจะอินกับอะไรทำนองนี้ เพราะฉะนั้นเราก็เลยรู้สึกว่า ถ้าหากละครมันจบลงตรงฉากนี้เลย เราก็จะรู้สึกเหมือนกับว่าละครเรื่องนี้เอามีดมาแทงเราที่หัวใจ แล้วก็จบไปเลย แล้วเราก็จะเดินออกจากโรงละครไปพร้อมกับมีมีดปักคาใจเราอยู่ แล้วเราก็จะฝังใจกับละครเรื่องนี้ไปอีกนาน แต่ละครเรื่องนี้ไม่ได้จบลงที่จุดนั้น เพราะจริงๆแล้วดูเหมือนว่าละครมันยังต้องดำเนินต่อไป เพื่อที่คนดูจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครในช่วงท้าย ซึ่งอาจจะทำให้เราเข้าใจธีมหรือประเด็นของละครเรื่องนี้ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์มากขึ้น เพราะฉะนั้นเราก็เลยไม่คิดว่ามันผิดแต่อย่างใดที่ละครเรื่องนี้ไม่ได้จบลงตรงจุดที่เราชอบ แต่ในแง่ของ “อารมณ์ส่วนตัว” แล้ว เรารู้สึกว่าสิ่งที่ช่วงท้าย
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ "VOTE" และ "SHARE"
ฌาธาม สอบผ่าน ตีบทแตกละครเวที เพราะรัก...ชั่วฟ้าดินสลาย นักวิจารณ์ชื่อดัง การันตรีฝีมือลงเว็ปดัง
24 VOTES (2/5 จาก 12 คน)
หากคุณเป็นเจ้าของนิตยสาร/โมเดลลิ่ง เอเจนซี่ ต้องการโปรโมท สามารถส่ง e-mail แจ้งทีมงานให้ตั้งค่า username ของคุณเป็น Official User ได้ที่ info@postjung.com โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ