“เปรี้ยว”น้องใหม่มาแรง แจ้งเกิดบทร้าย - ดาวต่างมุม
โพสท์โดย“ขอบคุณแฟนๆ ที่ไม่เอาเปรี้ยวไปเปรียบเทียบบท “เปีย” ที่พี่อั้มเล่นไว้ เราต่างคนต่างเล่นในแบบตัวเอง ไม่มีใครแทนที่ใครหรือทำให้เหมือนใครได้ เลยอยากให้คนชมยอมรับและเปิดใจชม คมพยาบาท ที่เปรี้ยวเล่นเวอร์ชั่นนี้จริงๆ ค่ะ”
ชั่วโมงนี้ไม่มีใครไม่ติดหนึบละครรีเมคเรื่อง “คมพยาบาท” ที่กำลังออกอากาศทางช่อง 7 ทำให้แฟน ๆ พากันเรียกร้องให้เราหาเวลาไปพูดคุยกับสาวสวยนักแสดงน้องใหม่ “เปรี้ยว-ทัศนียา การสมนุช” ผู้รับบทบาท “เปีย” เวอร์ชั่น 2014 ซึ่งบทบาทนี้ทำให้นางเอกสุดฮอต “อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ” เคยแจ้งเกิดมาแล้ว งานนี้ “ดาวต่างมุม” จึงนัดแนะสาวเปรี้ยวคุยกันสบาย ๆ เปิดใจให้แฟน ๆ เดลินิวส์ได้รู้จักทุกเรื่องแล้วจะหลงรักเธอมากขึ้น
จุดเริ่มต้นการเข้าสู่วงการบันเทิงของเปรี้ยวมีที่มายังไง?
“ตอนนั้นเราอยู่ ม.ปลาย มีรุ่นน้องเอารูปเราไปลงตามเว็บบอร์ด ผู้จัดการเราก็เห็นเลยติดต่อมาทางรุ่นพี่เรา แล้วก็ได้มาประกวดซันซิล แล้วไปแคสติ้งที่ช่อง 7 จากนั้นก็เริ่มมีงานละครออกมาค่ะ ซึ่งจริง ๆ เราชอบดูละคร แต่ไม่เคยคิดว่าวันนึงจะมีโอกาสมาเล่นละครเลย เราเลยดีใจมากที่มีโอกาสตรงนี้ มันสนุก เพราะได้ทำอะไรใหม่ ๆ ตลอด เราเองก็สามารถพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่าเราสามารถรับได้ทั้งบทนางเอกหรือนางร้ายค่ะ (ยิ้ม)”
เล่นบท “เปีย” นางร้ายในละคร คมพยาบาทที่ อั้ม-พัชราภา เคยเล่นไว้เป็นยังไงบ้าง ?
“ตอนแรกที่รู้ต้องเล่นบท “เปีย” เปรี้ยวกดดันมากนะ เพราะพี่อั้ม-พัชราภา เคยเล่นคนก็ต้องคอยจับตามอง เพราะพี่อั้มเล่นไว้ได้ดีมากคนยังจำได้ แต่พอเวอร์ชั่นนี้ทุกตัวละครถูกปรับใหม่หมด หนูเล่นในสไตล์หนู ก็สบายขึ้น เปรี้ยวเพิ่งเล่นละครมาแค่ 3 เรื่อง ก็จะประหม่าเป็นธรรมดา แต่ไม่เอามาบั่นทอน เพราะบทเปียเป็นบทที่ดีมาก พลิกบทบาทของเราจริง ๆ การแสดง สีหน้า ท่าทาง สายตา เปลี่ยนหมดเราจึงได้เรียนรู้จากการรับบทนี้ก็สนุกค่ะ”
กระแสตอบรับดีมาก เพราะมันยากสำหรับนักแสดงใหม่ที่คนจะยอมรับ?
“ต้องขอบคุณจริง ๆ ค่ะที่แฟน ๆ ติดตามชมเรา แล้วไม่เอาเปรี้ยวไปเปรียบเทียบบทของ “เปีย” เวอร์ชั่นอื่น หนูไม่สามารถก๊อบปี้ตามพี่อั้มเล่นไว้ได้ เราต่างคนต่างเล่นในแบบตัวเอง ไม่มีใครแทนที่ใครหรือทำให้เหมือนได้ เลยอยากให้คนชมเห็นใจยอมรับและเปิดใจชมที่เปรี้ยวเล่นเวอร์ชั่นนี้ด้วยค่ะ”
หลายคนก็ชมว่าเรามีพัฒนาทางการแสดงที่ดีจากเรื่องแรกจนถึงเรื่องนี้?
“มันเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีกำลังใจในการพัฒนา เพราะการที่เค้าพูดถึงเราได้ แสดงว่าเราก็ทำได้จนคนพูดถึง รู้สึกดีจริง ๆ ค่ะ เราเองก็ได้ตามดูละครเมื่อออนแอร์ตลอด เพราะอยากรู้ตัวเองเล่นเป็นยังไง บางฉากก็รู้สึกดีที่เล่นได้ แต่บางฉากเรากลับรู้สึกว่าเราน่าจะทำได้มากกว่านี้นะ การใช้สายตายังไม่ดี ครั้งหน้าจะต้องปรับปรุง”
หลายคนก็บอกว่าเราเป็นนางเอกในแบบของช่อง 7 ในส่วนของรูปร่างหน้าตา?
“ก็จริงนะคะ (ยิ้ม) หน้าหนูไทยมาก หน้าดูมีอายุด้วยทั้งที่หนูเพิ่งอายุ 20 ปี เองนะคะ (หัวเราะ) คนชอบทักหนูสลับกับพี่นาว-ทิสานาฏ ตลกมากแม้แต่คนในกองยังจำสลับกัน แต่ก็ดีใจค่ะเราเองก็ชอบหน้าตาเราที่เป็นไทย ๆ แบบนี้ ไม่เหมือนใครดีนะคะ”
กลัวว่าถ้าเล่นบทร้ายแล้วภาพนางเอกก็จะยากขึ้นถ้าเล่นเรื่องต่อไปมั้ย ?
“หนูว่าแล้วแต่ผู้ใหญ่มองว่าเหมาะสมจะเล่นบทไหน อีกอย่างมันเป็นแค่การแสดง ตัวตนจริง ๆ เราไม่ได้ร้ายแบบละคร อย่างเรื่อง “แม่ปูเปรี้ยว” ซึ่งเป็นละครเรื่องแรกก็จะแก่น ๆ เรื่องต่อมาคือ “โดมทอง” ก็บทบาทบู๊ไปเลย จนมา “เล่ห์นางหงส์” แล้วก็ “คมพยาบาท” ที่ร้ายไปเลย เปรี้ยวคิดว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้รับบทบาทไม่ซํ้ากัน น้อยคนนะคะที่ปีหนึ่งจะเล่นบทหลากหลาย ซึ่งมันก็ทำให้เราพัฒนาไปได้เยอะจริง ๆ”
ครอบครัวว่ายังไงหลังก้าวเข้าวงการบันเทิง?
“คุณพ่อคุณแม่โอเคค่ะ แต่หนูสนิทกับคุณน้าด้วย เค้าก็ห่วง กลัวกระทบเรื่องการเรียนที่ตอนนั้นกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย แต่เราก็สามารถควบคุมตัวเอง และพิสูจน์ให้ผู้ใหญ่เห็นว่าเราทำสองอย่างควบคู่กันได้ ซึ่งอย่างที่ทราบกันเพราะช่อง 7 ถ่ายละครไป ออกอากาศไปด้วย ยิ่งหนัก แต่เราแบ่งคิวละครและคิวเรียนได้ ตอนแรกมันเหนื่อยมาก ละครออกอากาศถ่ายไม่ทัน ท้อ งอแงมาก แต่พอเราผ่านมาได้ก็รู้สึกสนุก และปรับตัวได้แล้ว”
สิ่งที่เรียนรู้จากการทำงานหนักแบบนี้?
“ทำให้หนูเป็นคนมีวินัยมากขึ้น จากเป็นเด็กธรรมดา ต้องมารับผิดชอบแบบผู้ใหญ่มันก็เหนื่อย แต่พอมาทำงานสักพัก เราจะรู้ว่าไม่ใช่แค่เราที่เหนื่อย ยังมีพี่ ๆ เพื่อน ๆ นักแสดงคนอื่น ทีมงาน ผู้กำกับ ทุกคนก็เหนื่อย แต่เหนื่อยเพื่องานละครให้คนดูชม ซึ่งมันคือพลังและกำลังใจในการทำงานของเราถ้ารู้ว่ายังมีคนรอบข้างคอยชมผลงานของเรา ยิ่งทำให้เปรี้ยวรู้สึกว่าต้องทำโอกาสที่ได้รับให้ดีที่สุด”
วงการบันเทิงเข้ามาง่าย แต่จะอยู่ให้นาน มีชื่อเสียง มันยาก มองยังไง?
“ถูกต้องค่ะ สำหรับหนูไม่ต้องการชื่อเสียงโด่งดังมากมาย เราอยู่ทำงานไปเรื่อย ๆ บางคนเค้าอาจมองว่าทำให้ตัวเองมีข่าวไม่ค่อยดี เพื่อที่จะมีชื่อเสียง มีงานเยอะ ตามความคิดหนูไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่นะ ถ้าเราจะดังด้วยเรื่องแบบนั้น ขอมีชื่อเสียงขึ้นมาจากฝีมือการแสดง มันคงจะดีกว่า เพราะท้ายที่สุดคนที่รับข่าวก็จะมองเราไม่ดี โดยไม่รู้ข้อเท็จจริงเป็นยังไง แต่อาจถูกตัดสินไปแล้วค่ะ”
ในมุมมองเราต้องเป็นยังไง ถึงจะสามารถอยู่ในวงการนี้ได้ดี?
“งานการแสดงเป็นอีกอาชีพที่ให้ข้อคิดหลายอย่างกับเรา ทั้งการวางตัว ความมีวินัย ทำให้เด็กคนหนึ่งมีวินัยในการใช้ชีวิตมากขึ้น รู้จักปรับตัวให้เข้ากับสังคม มันยากในการปรับตัวช่วงแรก เรายังเด็ก ติดเล่น ติดเพื่อน ก็กลายเป็นต้องมาทำงานที่กองถ่าย แต่พอโตขึ้นได้ทำงาน ได้เจอผู้ใหญ่ ทำไมคนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้ จะอยู่ในวงการนี้ให้นานเราต้องเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย มีสัมมาคารวะ ทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด ถ้าเราทำไม่ดีคนอื่นก็เอาไปพูดต่อบอกต่อ ต่อไปก็ไม่จ้างเราได้ค่ะ”
ปรับตัวกับการทำงานมีชีวิตในวงการบันเทิงได้หรือยัง?
“ตอนนี้ปรับได้แล้วค่ะ ตอนเข้ามาครั้งแรก ๆ ยังงง ๆ อยู่
ชั่วโมงนี้ไม่มีใครไม่ติดหนึบละครรีเมคเรื่อง “คมพยาบาท” ที่กำลังออกอากาศทางช่อง 7 ทำให้แฟน ๆ พากันเรียกร้องให้เราหาเวลาไปพูดคุยกับสาวสวยนักแสดงน้องใหม่ “เปรี้ยว-ทัศนียา การสมนุช” ผู้รับบทบาท “เปีย” เวอร์ชั่น 2014 ซึ่งบทบาทนี้ทำให้นางเอกสุดฮอต “อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ” เคยแจ้งเกิดมาแล้ว งานนี้ “ดาวต่างมุม” จึงนัดแนะสาวเปรี้ยวคุยกันสบาย ๆ เปิดใจให้แฟน ๆ เดลินิวส์ได้รู้จักทุกเรื่องแล้วจะหลงรักเธอมากขึ้น
จุดเริ่มต้นการเข้าสู่วงการบันเทิงของเปรี้ยวมีที่มายังไง?
“ตอนนั้นเราอยู่ ม.ปลาย มีรุ่นน้องเอารูปเราไปลงตามเว็บบอร์ด ผู้จัดการเราก็เห็นเลยติดต่อมาทางรุ่นพี่เรา แล้วก็ได้มาประกวดซันซิล แล้วไปแคสติ้งที่ช่อง 7 จากนั้นก็เริ่มมีงานละครออกมาค่ะ ซึ่งจริง ๆ เราชอบดูละคร แต่ไม่เคยคิดว่าวันนึงจะมีโอกาสมาเล่นละครเลย เราเลยดีใจมากที่มีโอกาสตรงนี้ มันสนุก เพราะได้ทำอะไรใหม่ ๆ ตลอด เราเองก็สามารถพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่าเราสามารถรับได้ทั้งบทนางเอกหรือนางร้ายค่ะ (ยิ้ม)”
เล่นบท “เปีย” นางร้ายในละคร คมพยาบาทที่ อั้ม-พัชราภา เคยเล่นไว้เป็นยังไงบ้าง ?
“ตอนแรกที่รู้ต้องเล่นบท “เปีย” เปรี้ยวกดดันมากนะ เพราะพี่อั้ม-พัชราภา เคยเล่นคนก็ต้องคอยจับตามอง เพราะพี่อั้มเล่นไว้ได้ดีมากคนยังจำได้ แต่พอเวอร์ชั่นนี้ทุกตัวละครถูกปรับใหม่หมด หนูเล่นในสไตล์หนู ก็สบายขึ้น เปรี้ยวเพิ่งเล่นละครมาแค่ 3 เรื่อง ก็จะประหม่าเป็นธรรมดา แต่ไม่เอามาบั่นทอน เพราะบทเปียเป็นบทที่ดีมาก พลิกบทบาทของเราจริง ๆ การแสดง สีหน้า ท่าทาง สายตา เปลี่ยนหมดเราจึงได้เรียนรู้จากการรับบทนี้ก็สนุกค่ะ”
กระแสตอบรับดีมาก เพราะมันยากสำหรับนักแสดงใหม่ที่คนจะยอมรับ?
“ต้องขอบคุณจริง ๆ ค่ะที่แฟน ๆ ติดตามชมเรา แล้วไม่เอาเปรี้ยวไปเปรียบเทียบบทของ “เปีย” เวอร์ชั่นอื่น หนูไม่สามารถก๊อบปี้ตามพี่อั้มเล่นไว้ได้ เราต่างคนต่างเล่นในแบบตัวเอง ไม่มีใครแทนที่ใครหรือทำให้เหมือนได้ เลยอยากให้คนชมเห็นใจยอมรับและเปิดใจชมที่เปรี้ยวเล่นเวอร์ชั่นนี้ด้วยค่ะ”
หลายคนก็ชมว่าเรามีพัฒนาทางการแสดงที่ดีจากเรื่องแรกจนถึงเรื่องนี้?
“มันเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีกำลังใจในการพัฒนา เพราะการที่เค้าพูดถึงเราได้ แสดงว่าเราก็ทำได้จนคนพูดถึง รู้สึกดีจริง ๆ ค่ะ เราเองก็ได้ตามดูละครเมื่อออนแอร์ตลอด เพราะอยากรู้ตัวเองเล่นเป็นยังไง บางฉากก็รู้สึกดีที่เล่นได้ แต่บางฉากเรากลับรู้สึกว่าเราน่าจะทำได้มากกว่านี้นะ การใช้สายตายังไม่ดี ครั้งหน้าจะต้องปรับปรุง”
หลายคนก็บอกว่าเราเป็นนางเอกในแบบของช่อง 7 ในส่วนของรูปร่างหน้าตา?
“ก็จริงนะคะ (ยิ้ม) หน้าหนูไทยมาก หน้าดูมีอายุด้วยทั้งที่หนูเพิ่งอายุ 20 ปี เองนะคะ (หัวเราะ) คนชอบทักหนูสลับกับพี่นาว-ทิสานาฏ ตลกมากแม้แต่คนในกองยังจำสลับกัน แต่ก็ดีใจค่ะเราเองก็ชอบหน้าตาเราที่เป็นไทย ๆ แบบนี้ ไม่เหมือนใครดีนะคะ”
กลัวว่าถ้าเล่นบทร้ายแล้วภาพนางเอกก็จะยากขึ้นถ้าเล่นเรื่องต่อไปมั้ย ?
“หนูว่าแล้วแต่ผู้ใหญ่มองว่าเหมาะสมจะเล่นบทไหน อีกอย่างมันเป็นแค่การแสดง ตัวตนจริง ๆ เราไม่ได้ร้ายแบบละคร อย่างเรื่อง “แม่ปูเปรี้ยว” ซึ่งเป็นละครเรื่องแรกก็จะแก่น ๆ เรื่องต่อมาคือ “โดมทอง” ก็บทบาทบู๊ไปเลย จนมา “เล่ห์นางหงส์” แล้วก็ “คมพยาบาท” ที่ร้ายไปเลย เปรี้ยวคิดว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้รับบทบาทไม่ซํ้ากัน น้อยคนนะคะที่ปีหนึ่งจะเล่นบทหลากหลาย ซึ่งมันก็ทำให้เราพัฒนาไปได้เยอะจริง ๆ”
ครอบครัวว่ายังไงหลังก้าวเข้าวงการบันเทิง?
“คุณพ่อคุณแม่โอเคค่ะ แต่หนูสนิทกับคุณน้าด้วย เค้าก็ห่วง กลัวกระทบเรื่องการเรียนที่ตอนนั้นกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย แต่เราก็สามารถควบคุมตัวเอง และพิสูจน์ให้ผู้ใหญ่เห็นว่าเราทำสองอย่างควบคู่กันได้ ซึ่งอย่างที่ทราบกันเพราะช่อง 7 ถ่ายละครไป ออกอากาศไปด้วย ยิ่งหนัก แต่เราแบ่งคิวละครและคิวเรียนได้ ตอนแรกมันเหนื่อยมาก ละครออกอากาศถ่ายไม่ทัน ท้อ งอแงมาก แต่พอเราผ่านมาได้ก็รู้สึกสนุก และปรับตัวได้แล้ว”
สิ่งที่เรียนรู้จากการทำงานหนักแบบนี้?
“ทำให้หนูเป็นคนมีวินัยมากขึ้น จากเป็นเด็กธรรมดา ต้องมารับผิดชอบแบบผู้ใหญ่มันก็เหนื่อย แต่พอมาทำงานสักพัก เราจะรู้ว่าไม่ใช่แค่เราที่เหนื่อย ยังมีพี่ ๆ เพื่อน ๆ นักแสดงคนอื่น ทีมงาน ผู้กำกับ ทุกคนก็เหนื่อย แต่เหนื่อยเพื่องานละครให้คนดูชม ซึ่งมันคือพลังและกำลังใจในการทำงานของเราถ้ารู้ว่ายังมีคนรอบข้างคอยชมผลงานของเรา ยิ่งทำให้เปรี้ยวรู้สึกว่าต้องทำโอกาสที่ได้รับให้ดีที่สุด”
วงการบันเทิงเข้ามาง่าย แต่จะอยู่ให้นาน มีชื่อเสียง มันยาก มองยังไง?
“ถูกต้องค่ะ สำหรับหนูไม่ต้องการชื่อเสียงโด่งดังมากมาย เราอยู่ทำงานไปเรื่อย ๆ บางคนเค้าอาจมองว่าทำให้ตัวเองมีข่าวไม่ค่อยดี เพื่อที่จะมีชื่อเสียง มีงานเยอะ ตามความคิดหนูไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่นะ ถ้าเราจะดังด้วยเรื่องแบบนั้น ขอมีชื่อเสียงขึ้นมาจากฝีมือการแสดง มันคงจะดีกว่า เพราะท้ายที่สุดคนที่รับข่าวก็จะมองเราไม่ดี โดยไม่รู้ข้อเท็จจริงเป็นยังไง แต่อาจถูกตัดสินไปแล้วค่ะ”
ในมุมมองเราต้องเป็นยังไง ถึงจะสามารถอยู่ในวงการนี้ได้ดี?
“งานการแสดงเป็นอีกอาชีพที่ให้ข้อคิดหลายอย่างกับเรา ทั้งการวางตัว ความมีวินัย ทำให้เด็กคนหนึ่งมีวินัยในการใช้ชีวิตมากขึ้น รู้จักปรับตัวให้เข้ากับสังคม มันยากในการปรับตัวช่วงแรก เรายังเด็ก ติดเล่น ติดเพื่อน ก็กลายเป็นต้องมาทำงานที่กองถ่าย แต่พอโตขึ้นได้ทำงาน ได้เจอผู้ใหญ่ ทำไมคนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้ จะอยู่ในวงการนี้ให้นานเราต้องเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย มีสัมมาคารวะ ทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด ถ้าเราทำไม่ดีคนอื่นก็เอาไปพูดต่อบอกต่อ ต่อไปก็ไม่จ้างเราได้ค่ะ”
ปรับตัวกับการทำงานมีชีวิตในวงการบันเทิงได้หรือยัง?
“ตอนนี้ปรับได้แล้วค่ะ ตอนเข้ามาครั้งแรก ๆ ยังงง ๆ อยู่
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ "VOTE" และ "SHARE"
“เปรี้ยว”น้องใหม่มาแรง แจ้งเกิดบทร้าย - ดาวต่างมุม
83 VOTES (4.4/5 จาก 19 คน)
หากคุณเป็นเจ้าของนิตยสาร/โมเดลลิ่ง เอเจนซี่ ต้องการโปรโมท สามารถส่ง e-mail แจ้งทีมงานให้ตั้งค่า username ของคุณเป็น Official User ได้ที่ info@postjung.com โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ