ป่าล้อมเมือง ผบทบ.อีสานอินดี้ คนพลัดถิ่นเลือกร้อง ให้เข้าฉาย กทม. บ้าง
โพสท์โดยเมื่อป่าล้อมเมืองสัมฤทธิ์ผล ทั้งเครือ SF และเมเจอร์ จึงนำเข้ามาฉายใน กทม. 19 มิ.ย.นี้
หลีกทางให้ขุ่นแม่มาลี เต็มๆ อ่ะ
อุเทน บอกว่า ก่อนหน้านี้เขาเคยไปติดต่อเครือโรงหนังยักษ์ใหญ่มาแล้ว แต่ได้รับการปฏิเสธเรื่อยมา จนสุดท้ายตัดสินใจนำหนังไปฉายให้สายหนังดูและตามมาด้วยการตกลงนำเข้าฉายเฉพาะในโรงภาพยนตร์เฉพาะเขตภาคอีสาน ซึ่งอุเทน ต่อรองด้วยการขอสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของหนังแลกกับการแบ่งรายได้กับโรงหนัง ไม่ได้ขายขาดในสิทธิ์การเป็นเจ้าของให้กับสายหนังเหมือนหนังไทยหลายๆ เรื่องที่ผ่านมา แม้จะรู้ว่าส่วนแบ่งจากโรงอาจจะน้อยกว่าปกติ เพราะส่วนใหญ่โรงหนังภาคอีสานเป็นโรงขนาดเล็กจุผู้ชมได้ไม่มากนัก และสุดท้ายสิ่งที่อุเทน คิดและตั้งใจทำ ก็นำมาซึ่งความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เจ้าตัวคาดคิดไว้ อุเทน บอกว่าหลังโรงหนังเครือยักษใหญ่รู้ถึงกระแสความนิยมทะลักล้นถล่มทลายของ “ผู้บ่าวไทบ้าน” ในแถบอีสาน เขาก็ได้รับการติดต่อให้นำหนังเข้ามาฉายในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลทันที (ขณะนี้กำลังวางแผนเรื่องโปรแกรมฉายกันอยู่ คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1-2 สัปดาห์จากนี้)
อุเทน ตั้งใจลงมือลงแรงทำหนังเรื่องนี้ ด้วยสายเลือดแห่งความเป็นคนอีสานฉีดแรง ตั้งแต่อยากนำเสนอเรื่องราวของคนและวัฒนธรรมอีสานร่วมสมัยลงไปในหนังโดยได้ไอเดียจากหนังสั้นชื่อเดียวกัน ที่เขาและเพื่อนๆ ช่วยกันทำสนุกๆ จนได้รับความนิยมในโลกออนไลน์ ก่อนจะมองเห็นช่องทางในการทำหนัง และตัดสินใจหยิบมาพัฒนาเป็นหนังขนาดยาวโดยใช้เวลาถึง 3 ปี ตั้งแต่จรดปากกาเขียนบท ก่อนจะตัดสินใจเอาที่นาไปจำนอง เอารถไปเข้าไฟแนนซ์ เพื่อหาเงินมาทำ และโชคดีที่มีคนเห็นความน่าสนใจในตัวหนังและร่วมลงขันลงทุน จนสำเร็จเสร็จออกมาพร้อมฉาย ที่สำคัญอุเทนรู้ว่า คนดูของเขาเป็นใคร ฉะนั้น “ผู้บ่าวไทบ้าน” จึงเป็นหนังที่พูดภาษาอีสานตลอดทั้งเรื่องและโรงหนังไม่สนใจ เขาก็ลองมองหาช่องทางใหม่ๆ ด้วยการนำออกฉายให้คนพื้นถิ่นเดียวกันได้ดู อุเทนและเพื่อนๆ ไม่มีเงินซื้อโฆษณาในหนังบันเทิงของหนังสือพิมพ์หัวสี ไม่มีงบประมาณพอจะเวลาฉายสปอทโฆษณาทางทีวี ไม่มีแม้กระทั่ง จะทำป้ายแบนเนอร์ใหญ่ๆ ไปติดตามโรงภาพยนตร์ ทำได้ก็เพียงช่วยกันออกแบบโปสเตอร์กับเพื่อนๆ แล้วพิมพ์ไปแจกจ่ายตามโรงที่หนังเข้าฉาย และสุดท้ายสิ่งที่พวกเขาใช้มากกว่าเงินคือแรงกาย ใจ และสติปัญญา ก็นำมาซึ่งการต้อนรับอย่างอบอุ่นและยิ่งใหญ่จากคนดูในท้ายที่สุด
การทำหนังด้วยความรักกับการทำหนังเพื่อหวังผลทางธุรกิจ แสดงให้เห็นถึงผลตอบรับกลับมายังคนทำอย่างเด่นชัดโดยเฉพาะกรณีของ “ผู้บ่าวไทบ้าน” และ “ศรีธนญชัย555+” แม้ในความเป็นจริงสองสิ่งนี้ ไม่อาจแยกห่างและต่างต้องอาศัยพึ่งพาในการเดินทางร่วมกันกว่าที่หนังสักเรื่องจะออกสู่สายตาผู้ชมได้แต่ถ้าความตั้งใจแรกเริ่มหากมีน้ำหนักของการลงมือทำด้วยความรักมากกว่าแสวงหาผลกำไร หนังเรื่องนั้นก็มักจะประสบความสำเร็จทุกครั้งไป และถึงแม้รายได้กลับมาไม่มากมาย แต่อย่างน้อยก็ยังได้เสียงชื่นชมกลับมาหล่อเลี้ยงหัวใจเป็นการทดแทน เพราะภาพที่ปรากฏในหนังแต่ละฉาก แต่ละเฟรม ไม่เพียงถ่ายทอดเรื่องราวจากจินตนาการของคนทำหนังเท่านั้น หากแต่มันยังสะท้อนถึงมุ่งมั่นทุ่มเท ประณีตบรรจงลงมือ ลงแรงผ่านหลังใจมหาศาล ซึ่งเชื่อว่ามันสามารถสื่อไปยังคนดูให้รับรู้ถึงพลังและปณิธานอันแรงกล้าเหล่านั้นได้ไม่มากก็น้อย
.......................................
(หมายเหตุ 'ผู้บ่าวไทบ้าน ผู้สร้างปรากฏการณ์เล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่' : คอลัมน์ เอกเขนกดูหนัง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม)
หลีกทางให้ขุ่นแม่มาลี เต็มๆ อ่ะ
อุเทน บอกว่า ก่อนหน้านี้เขาเคยไปติดต่อเครือโรงหนังยักษ์ใหญ่มาแล้ว แต่ได้รับการปฏิเสธเรื่อยมา จนสุดท้ายตัดสินใจนำหนังไปฉายให้สายหนังดูและตามมาด้วยการตกลงนำเข้าฉายเฉพาะในโรงภาพยนตร์เฉพาะเขตภาคอีสาน ซึ่งอุเทน ต่อรองด้วยการขอสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของหนังแลกกับการแบ่งรายได้กับโรงหนัง ไม่ได้ขายขาดในสิทธิ์การเป็นเจ้าของให้กับสายหนังเหมือนหนังไทยหลายๆ เรื่องที่ผ่านมา แม้จะรู้ว่าส่วนแบ่งจากโรงอาจจะน้อยกว่าปกติ เพราะส่วนใหญ่โรงหนังภาคอีสานเป็นโรงขนาดเล็กจุผู้ชมได้ไม่มากนัก และสุดท้ายสิ่งที่อุเทน คิดและตั้งใจทำ ก็นำมาซึ่งความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เจ้าตัวคาดคิดไว้ อุเทน บอกว่าหลังโรงหนังเครือยักษใหญ่รู้ถึงกระแสความนิยมทะลักล้นถล่มทลายของ “ผู้บ่าวไทบ้าน” ในแถบอีสาน เขาก็ได้รับการติดต่อให้นำหนังเข้ามาฉายในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลทันที (ขณะนี้กำลังวางแผนเรื่องโปรแกรมฉายกันอยู่ คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1-2 สัปดาห์จากนี้)
อุเทน ตั้งใจลงมือลงแรงทำหนังเรื่องนี้ ด้วยสายเลือดแห่งความเป็นคนอีสานฉีดแรง ตั้งแต่อยากนำเสนอเรื่องราวของคนและวัฒนธรรมอีสานร่วมสมัยลงไปในหนังโดยได้ไอเดียจากหนังสั้นชื่อเดียวกัน ที่เขาและเพื่อนๆ ช่วยกันทำสนุกๆ จนได้รับความนิยมในโลกออนไลน์ ก่อนจะมองเห็นช่องทางในการทำหนัง และตัดสินใจหยิบมาพัฒนาเป็นหนังขนาดยาวโดยใช้เวลาถึง 3 ปี ตั้งแต่จรดปากกาเขียนบท ก่อนจะตัดสินใจเอาที่นาไปจำนอง เอารถไปเข้าไฟแนนซ์ เพื่อหาเงินมาทำ และโชคดีที่มีคนเห็นความน่าสนใจในตัวหนังและร่วมลงขันลงทุน จนสำเร็จเสร็จออกมาพร้อมฉาย ที่สำคัญอุเทนรู้ว่า คนดูของเขาเป็นใคร ฉะนั้น “ผู้บ่าวไทบ้าน” จึงเป็นหนังที่พูดภาษาอีสานตลอดทั้งเรื่องและโรงหนังไม่สนใจ เขาก็ลองมองหาช่องทางใหม่ๆ ด้วยการนำออกฉายให้คนพื้นถิ่นเดียวกันได้ดู อุเทนและเพื่อนๆ ไม่มีเงินซื้อโฆษณาในหนังบันเทิงของหนังสือพิมพ์หัวสี ไม่มีงบประมาณพอจะเวลาฉายสปอทโฆษณาทางทีวี ไม่มีแม้กระทั่ง จะทำป้ายแบนเนอร์ใหญ่ๆ ไปติดตามโรงภาพยนตร์ ทำได้ก็เพียงช่วยกันออกแบบโปสเตอร์กับเพื่อนๆ แล้วพิมพ์ไปแจกจ่ายตามโรงที่หนังเข้าฉาย และสุดท้ายสิ่งที่พวกเขาใช้มากกว่าเงินคือแรงกาย ใจ และสติปัญญา ก็นำมาซึ่งการต้อนรับอย่างอบอุ่นและยิ่งใหญ่จากคนดูในท้ายที่สุด
การทำหนังด้วยความรักกับการทำหนังเพื่อหวังผลทางธุรกิจ แสดงให้เห็นถึงผลตอบรับกลับมายังคนทำอย่างเด่นชัดโดยเฉพาะกรณีของ “ผู้บ่าวไทบ้าน” และ “ศรีธนญชัย555+” แม้ในความเป็นจริงสองสิ่งนี้ ไม่อาจแยกห่างและต่างต้องอาศัยพึ่งพาในการเดินทางร่วมกันกว่าที่หนังสักเรื่องจะออกสู่สายตาผู้ชมได้แต่ถ้าความตั้งใจแรกเริ่มหากมีน้ำหนักของการลงมือทำด้วยความรักมากกว่าแสวงหาผลกำไร หนังเรื่องนั้นก็มักจะประสบความสำเร็จทุกครั้งไป และถึงแม้รายได้กลับมาไม่มากมาย แต่อย่างน้อยก็ยังได้เสียงชื่นชมกลับมาหล่อเลี้ยงหัวใจเป็นการทดแทน เพราะภาพที่ปรากฏในหนังแต่ละฉาก แต่ละเฟรม ไม่เพียงถ่ายทอดเรื่องราวจากจินตนาการของคนทำหนังเท่านั้น หากแต่มันยังสะท้อนถึงมุ่งมั่นทุ่มเท ประณีตบรรจงลงมือ ลงแรงผ่านหลังใจมหาศาล ซึ่งเชื่อว่ามันสามารถสื่อไปยังคนดูให้รับรู้ถึงพลังและปณิธานอันแรงกล้าเหล่านั้นได้ไม่มากก็น้อย
.......................................
(หมายเหตุ 'ผู้บ่าวไทบ้าน ผู้สร้างปรากฏการณ์เล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่' : คอลัมน์ เอกเขนกดูหนัง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม)
Credit: E SAN INDY FILM STUDIO กลุ่มคนทำหนังอินดี้อีสาน
Tags ที่เกี่ยวข้อง : E SAN INDY FILM STUDIO กลุ่มคนทำหนังอินดี้อีสาน
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ "VOTE" และ "SHARE"
ป่าล้อมเมือง ผบทบ.อีสานอินดี้ คนพลัดถิ่นเลือกร้อง ให้เข้าฉาย กทม. บ้าง
35 VOTES (5/5 จาก 7 คน)
หากคุณเป็นเจ้าของนิตยสาร/โมเดลลิ่ง เอเจนซี่ ต้องการโปรโมท สามารถส่ง e-mail แจ้งทีมงานให้ตั้งค่า username ของคุณเป็น Official User ได้ที่ info@postjung.com โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ