ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก & เนตั้น-แดนอรุณ @ CANDY Magazine no.122 March 2015
โพสท์โดย l2oomพูดถึงหนังเรื่องนี้กันก่อนเนอะ ‘อัลเทอร์มาจีบ’ เป็นยังไงบ้าง
ใบเฟิร์น : เป็นอีกเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับเฟิร์นนะคะ อาจจะเป็นเพราะว่าเนื้อเรื่องจะออกแนวย้อนยุคด้วย แล้วก็มีเรื่องเกี่ยวกับความชำนาญด้านดนตรี การร้องเพลง ในเรื่องเฟิร์นเป็นนักร้อง ก็ต้องไปฝึกค่ะ เพราะเฟิร์นร้องเพี้ยนมากกก คือปกติเป็นคนร้องเพลงเพี้ยน แล้วเรื่องนี้นางเอกเค้าต้องร้องเพลงเก่ง เล่นกีตาร์เป็น ถูกใจเรามากกก (หัวเราะ) อยู่ในกองซ้อมตลอด อันไหนได้ก็ไปอัด ตื่นเต้นอ่ะค่ะ แต่งเพลงใหม่เราก็ต้องฟังซ้ำๆ เพื่อให้ตัวเองจำโน้ตได้ แต่ก็ยังเพี้ยนอยู่นะคะ
เนตั้น : ในเรื่องผมรับบทเป็น กล้อง เด็กวัยรุ่นที่ไม่สนิทกับพ่อครับ เพราะพ่อเป็นสถาปนิกบ้างาน จนทำให้เราทะเลาะกับพ่อ แล้วก็ไปเจอเพจเจอร์อันเก่าของพ่อที่อยู่ดีๆ ก็มีข้อความส่งเข้ามา ทำให้ผมสงสัยจนต้องออกไปโทรศัพท์สาธารณะเพื่อหาสาเหตุ แต่กลับทำให้เราย้อนกลับไปในปี พ.ศ 2538
ฉากที่ประทับใจที่สุดในเรื่องนี้
ใบเฟิร์น : เฟิร์นประทับใจหลายฉากนะคะ มีฉากที่ ‘ส้ม’ นางเองในเรื่องเค้าขึ้นไปบนเวทีเพื่อร้องเพลงเพลงนึงให้ผู้ชายที่เขาหลงรัก เป็นฉากที่เฟิร์นรู้สึกว่ายากที่สุด อาจเป็นเพราะหลายๆ อย่าง ด้วยเนื้อเพลงที่เราต้องท่องจำให้ได้ มือก็ต้องดีดกีตาร์ไปด้วย เพลง ‘อัลเทอร์เนทีฟ’ ถ้าเราทำการบ้านมาก็จะทราบว่ามันเป็นแนวร็อกรุนแรง แล้วเราพื้นฐานเล่นกีตาร์ไม่เป็นเลย กว่าจะผ่านฉากนั้นไปได้ก็ใช้เวลาอยู่เหมือนกันค่ะ
เนตั้น : ฉากไหนล่ะ อ๋อ…ตอนบิดมอเตอร์ไซค์ครับ มาวันแรกโดนเลยครับ เป็นฉากที่ผมต้องขับมอเตอร์ไซค์หนีวัยรุ่น ซึ่งจะมีคนขับตามล่าผมข้างหลัง ผมก็เคยขับมอเตอร์ไซค์นะ แต่ขับไม่ค่อยแข็ง พอผมมาถึงกองเค้าก็ให้ผมขับเป็นเส้นตรง เราก็โอเคเลย แต่กลายเป็นว่าขับลุยรังสิต (หัวเราะ) แล้วคือก่อนนั้นเค้ายังไม่ได้บอกผมเลยเข้าใจว่าแค่ขับถนนเส้นนั้นอย่างเดียว จากขับไม่แข็งวันนั้นแข็งเลยครับ ฮ่าๆ
เรื่องเมาท์กระจายของคู่พระนางชอบแกล้ง
ใบเฟิร์น : เนตั้นจริงๆ ก็น่ารักค่ะ ตลก สนุกสนานดี ถึงตอนแรกจะค่อนข้างเขินๆ กัน ตอนมาเวิร์กช็อปจะไม่คุยกัน ต่างคนต่างแยกกันอยู่ แต่พอผ่านไปวันสองวันก็เริ่มสนิทกันขึ้น นางก็แสบ แกล้งแซว มีฉากนึงหนูต้องร้องเพลงในเรื่อง จริงๆ ก็ลิปซิ้งเสียงตัวเองแหละ แต่พอซิ้งเสียงตัวเองมันก็ยังเพี้ยนอ่ะ นางก็มานั่งหัวเราะอยู่หลังเรา ‘โคตรเพี้ยนเลยเฟิร์น’ เราก็เลยมีแกล้งเค้าบ้างเหมือนกัน
เนตั้น : เรื่องเมาท์หรอครับ เยอะแยะเลย ใบเฟิร์นเขาชอบกินสัมตำก่อนเข้าฉาก หืม…ก็ไม่น่าจะเพิ่มเติมอะไรนะครับ (หัวเราะ)
เป็นหนังเรื่องแรกของ ‘เนตั้น’ รู้สึกยังไงบ้าง
เนตั้น : เรื่องนี้ผมเล่นเป็นเด็กวัยรุ่น กวนๆ ก็เลยจะไม่ต่างจากผมเท่าไหร่ แต่ฉากที่ยากจะมีประมาณ 2-3 ฉากครับ แล้วเป็นปัญหาเดียวกันหมดเลย คือบทที่ติดกัน 5-6 ประโยคผมจะลิ้นพันกัน แต่กองนี้ผมยังดีใจที่ไม่มีอะไรเกิน 6 เทค ไม่เหมือนเรื่องที่แล้ว ไม่มีอะไรเกิน 40 เทคครับ (หัวเราะ)
ในชีวิตเคยมีหนุ่มแต่งเพลงจีบไหมเอ่ย
ใบเฟิร์น : มีนะ ตอนนั้นหนูเด็กๆ เลยค่ะ เรา ม.1 อยู่มั้ง แล้วก็มีรุ่นพี่เป็นนักดนตรีในโรงเรียน ก็แบบ…เราก็ไปกรี๊ดคลั่งเค้ามาก แล้ววันนึงเค้าก็ไปดักเจอเราแล้วยื่นเศษกระดาษแผ่นนึงให้ แต่ข้างในเป็นเนื้อเพลงที่เค้าแต่งให้ เรางี้ก็ปลื้มไป
ถ้าต้องใช้เพลงจีบสาว เนตั้นจะเลือกเพลงไหนให้คนที่ชอบ
เนตั้น : เพลงสายตาของหนังเรื่องนี้ครับ เดี๋ยวผมจะไปหัดร้อง คือเพลงมันจะเกี่ยวกับความรักที่ไม่ใช่แค่การส่งข้อความไปเล็กๆ น้อยๆ แต่มันคือความพยายาม กว่าที่เราจะได้คบกับใครสักคนมันจะต้องเขินเวลาโทรหา ต้องยอมเสี่ยว ต้องแต่งเพลงให้ มันเป็นอะไรที่มีความหมายมาก
เพลงอะไรที่ใบเฟิร์นอยากได้ยินเวลามีคนมาจีบ
ใบเฟิร์น : โหยยยย เยอะแยะเลย เพลงไหนที่ชมว่าผู้หญิงคนนี้สวย นั่นล่ะค่ะ ใครจีบปุ๊บเป็นแฟนเลย มโน (หัวเราะ) ฟังแล้วถ้าเกิดมีใครสักคนให้เพลงนี้ฉันรักตายเลย แต่ไม่เคยได้เลยค่ะ
อะไรคือสิ่งที่คนได้ดูหนังรื่องนี้จะคิดถึง
ใบเฟิร์น : เฟิร์นว่ามีหลายอย่างเลย อย่างแรกย้อนเวลากลับไปเรื่องนั้นก่อนค่ะ อาจจะเป็นช่วงที่ใครบางคนอยู่ในยุคนั้นพอดี เฟิร์นเชื่อว่าเวลาที่คุณอยู่กับใคร หรือตอนนั้นมีช่วงวีรกรรมที่เป็นอดีตที่น่าสนใจ เฟิร์นเชื่อว่ามันคงผุดขึ้นมาไม่หยุด เฟิร์นเป็นเด็กรุ่นใหม่อย่างนี้ก็ได้กลับไปรู้ว่าการจะฟังเพลงไม่ง่ายนะ มันต้องรอซื้อเทปออกก่อนถึงจะได้ฟัง แล้วก็เรื่องของความรักความฝันที่ทำให้ใครหลายๆ คนอยากย้อนไปยุคนั้น เฟิร์นว่ามันมีหลายเรื่อง ครบทุกรสเลยล่ะค่ะ
ฝากติดตามภาพยนตร์ ‘อัลเทอร์มาจีบ’ 19 มีนาคมนี้เนอะ
เนตั้น : สำหรับหนังเรื่องนี้นะครับ ใครที่อยากย้อนยุคกับผม ไปใช้บัตรจีบ จีบสาวกัน ไปดูพร้อมกันกับผมนะครับ
ใบเฟิร์น : เฟิร์นคิดว่าเป็นอีกเรื่อง น่ารักๆ ของวัยรุ่น 4 คนที่ถ่ายทอดทั้งมุมของวัยรุ่นปัจจุบันและอดีต ซึ่งเป็นความรักที่มันมีมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว แล้วก็กว่าจะรักสมัยนี้กับสมัยนู้นบางที ‘ค่า’ มันต่างกัน การที่เราไปดูหนังบางทีมันอาจจะย้อนถึงช่วงอดีตที่แสนหวาน หรือโมเมนต์ที่เราลืมคนสำคัญอะไรไป ทำให้เราได้ย้อนดูตัวเองก็ได้ค่ะ ไปดูกันเยอะๆ นะคะ