9 อันดับชายหาด ที่แปลก
โพสท์โดยสวัสดีคร้าาฟ เพื่อนๆ ถ้าพูดถึงทะเลก็คงจะต้องมีชายหาดสวยๆ ใช่ไหมล่ะ แต่หาดสวย ทะเลใส ในโลกนี้มีเยอะ
แต่ที่แปลกๆ ก็มีไม่น้อย อย่างเช่น 18 ชายหาดสุดแปลกเหล่านี้ ถ้าหากยังไม่ได้ไปเยือนสักที่ล่ะก็ อย่าเพิ่งตายนะ!!
เอ๊ะ...แต่เราคงตายก่อน เพราะคงไม่ได้ไป ฮ่าๆๆๆ เรามาดู 18 ชายหาดที่ว่าแปลกที่สุดในโลกกันดีกว่าว่ามีที่ไหนบ้าง ... ★ ★
1.ชายหาดสุดระทึก Maho Beach - Saint Martin
ชายหาดมาโฮ หาดสุดเสียวบนเกาะเซ้นท์มาร์ติน ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ชายหาดอันโด่งดัง ที่สร้างความตื่นเต้นให้กับนักท่องเที่ยวที่มารอชมเครื่องบินลำโต บินโฉบเฉี่ยวอยู่เหนือศีรษะ ให้นักท่องเที่ยวระทึกเป็นระยะๆ เหตุเพราะชายหาดมีอาณาเขตติดกับสนามบิน
St Maarten ดังนั้นระหว่างเริงร่าอยู่ริมหาดจะมีเครื่องบินโฉบเฉี่ยวอยู่เหนือศีรษะคุณ ให้ระทึกเป็นระยะๆ นั่นเอง
หาด Maho Beach ณ St. Maarten อยู่ท้ายสนามบิน Princess Juliana Int. Airport เป๊ะๆ โดยเป็นสนามบินที่มีสถิติการใช้งานขึ้นลงของเครื่องบินแต่ละวันมากเป็นอันดับที่ 2 ของแถบคาริบเบียนตะวันออก และชื่อของสนามบินนี้ ตั้งขึ้นตามพระนามของสมเด็จพระมารดา Juliana ของพระราชินีองค์ปัจจุบันของเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่สมัยพระองค์ยังทรงเป็นเจ้าหญิงอยู่ หาดมาโฮนี้เป็นหาดที่มีชื่อเสียงมากหาดนึงในโลกสำหรับการมาคอยเฝ้าดูเครื่องบินขึ้นลงแบบมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ได้จริงของบรรดาเหล่าคนรักเครื่องบินเหมือนอีเด
2 .ชายหาดเปลือกหอย Shell Beach – Shark Bay, Australia
ชายหาดเปลือกหอยอยู่ในอ่าวชาร์ก (Shark Bay) ประเทศออสเตรเลีย ชื่อ Shell Beach มาจากการที่มีเปลือกหอยเล็กๆ
ปกคลุมอยู่เต็มหาด ด้วยเพราะน้ำทะเลมีความเค็มสูง ประกอบกับสภาพภูมิอากาศและพื้นที่เหมาะที่ประชากรหอยจะขึ้นมาอาศัยอยู่
ตื่นตาเปลือกหอยสีขาวนับล้านที่ “เชลล์ บีช” เวสเทิร์นออสเตรเลีย
หากคุณมีโอกาสมาเยือน รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย (Western Australia) ประเทศออสเตรเลีย (Australia) ขอแนะนำว่าคุณต้องไม่พลาด
ไปเยือน “เชลล์ บีช” (Shell Beach) อีกหนึ่งชาย หาดที่มีชื่อเสียงของ “ชาร์คเบย์” (Shark Bay) หรือที่เราเรียกกันว่า “อ่าวฉลาม”
อ่าวที่ตั้งอยู่ที่ปลายสุดด้านตะวันตกของทวีปออสเตรเลีย นอกากนี้แล้วอ่าวฉลามยังเป็นถิ่นของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ใกล้
สูญพันธุ์ 5 ชนิด อีกทั้งยังเป็นแปลงหญ้าทะเลที่กว้างใหญ่นับว่าใหญ่ที่สุดและอุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก ซึ่งต่อมาองค์การยูเนสโก
(Unesco) ได้ประกาศให้อ่าวแห่งนี้เป็นมรดกโลก ในปี 1991
ชายหาดเชลล์ บีช นั้นอยู่ห่างจากเมืองเดนแฮม (Denham) เมืองในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ไปทางตะวันออกเฉียงใต้
ประมาณ 45 กิโลเมตร ความโดดเด่นของเชลล์บีชคงหนีไม่พ้นหาด ทรายเปลือกหอยสีขาวดั่งหิมะขนานไปกับน้ำทะเลสีฟ้าคราม
ของมหาสมุทรอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คุณจะได้เดินทอดน่องไปบนชายหาดที่ถูกปูพรมด้วยเหล่า
เปลือกหอยสีขาวขนาดเล็กๆที่มีชื่อว่าเราเรียกกันว่า กะส้าหอย (coquina) ที่ประกอบด้วยเปลือกหอยและเศษชิ้นเหลี่ยมของหอย
เช่น หอยโคคีนา หอยสองฝาขนาดเล็กๆนับพันล้านที่พบ ได้มากในเขตเชลล์บีช ซึ่งหอยส่วนใหญ่มักตายตามธรรมชาติ
แล้วถูกน้ำทะเลพัดมาเกยชายฝั่งซึ่งใช้เวลานานหลายพันปี
3 .ชายหาดแก้ว Glass beach – California, America
ชายหาดแก้วแห่งนี้ เดิมที่เป็นที่ทิ้งขยะของรัฐแคลิฟอร์เนีย หลายสิบปีผ่านไป ขยะที่เป็นเศษแก้วถูกคลื่นซัดสาดหายไป
จนกลายเป็นชายหาดแสนสวยอย่าวน่าอัศจรรย์
หากคุณเป็นนักท่องเที่ยวอีกหนึ่งคนที่มีโอกาสมาเยือนรัฐแคลิฟอร์เนีย (California) รัฐที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา (United States of America) ทราเวลไทยซ่าส์ขอแนะนำว่าคุณต้องไม่พลาดโอกาสไปเยือน "กลาส บีช" (Glass Beach) หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า "หาดทรายแก้ว" ชายหาดที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแมคเคอริคเชอร์ (MacKerricher State Park) ใกล้ๆกับเมืองฟอร์ตบรากก์ (Fort Bragg) ในเมนโดซิโน เคาน์ตี้ ( Mendocino County)
กลาส บีช หรือ หาดทรายแก้ว เป็นอีกหนึ่งชายหาดที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แต่สิ่งที่พิเศษของชายหาดคือ หินหลากสีสันที่มีความสวยงามราวกับอัญมณี ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นจากฝีมือของมนุษย์ทั้งนั้นคะ เนื่องจากว่าในอดีตชายหาดแห่งนี้ถูกใช้เป็นที่มนุษย์นำขยะจำพวกแก้ว เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือแม้แต่รถยนต์มาทิ้งยังบริเวณชายหาดเป็นจำนวนมาก และเมื่อเวลาผ่านไปหลายทศวรรษเศษขยะดังที่กล่าวมาได้ถูกคลื่นและน้ำทะเลซัดสาดและกัดเซาะจนเหลือเพียงหินแก้วกรวดมนสวยงามดังเช่นในปัจจุบันนี้ต่อมาในปี 1998 กลาส บีช ได้รับการดูแลโดยอุทยานแมคเคอริคเชอร์ ชายหาดอัญมณีแห่งนี้จึงได้รับการอนุรักษ์และห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวเก็บเอาหินแก้วบริเวณชายหาดกลับไปอย่างเด็ดขาด...
4 .ชายหาดสีชมพู Pink Sand Beach – Bahamas
หาดทรายสีชมพูนี้อยู่ในประเทศบาฮามาส สีชมพูนวลดั่งผลท้อนี้แท้จริงคือเปลือกหอยสีชมพูที่แตกละเอียด
เมื่อต้องแสงแดดตอนเที่ยงก็ระยิบระยับ ยามพระอาทิตย์ตกดินลับขอบฟ้าก็ยิ่งขับสีชมพูบนผืนหาดให้ชัดเจน
"หาดทรายสีชมพู" บนเกาะฮาร์เบอร์ (Pink sand beach at Harbour Island) หาดสวยบนเกาะเล็กๆ ในประเทศบาฮามาส (Bahamas)
เหมาะแก่การสร้างบรรยากาศโรแมนติกให้คู่รักจริงๆ เกาะที่มีความยาวเพียง 5.6 กิโลเมตร และกว้างเพียง 2.4 กิโลเมตร
สาเหตุที่ทำให้เกาะแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเพราะมี ชายหาดทรายเป็นสีชมพูทอดตัวเป็นแนวยาวตามชายฝั่ง
ด้านตะวันออกของเกาะนั่นเอง เกาะฮาร์เบอร์นับเป็นเกาะที่มีชายหาดสวยและดีที่สุดที่สุดในทะเลแคริบเบียนอีกด้วย
หลายคนคงสงสับว่า เหตุใดหาดทรายบนเกาะแห่งนี้ถึงได้เป็นสีชมพู? สาเหตุที่ทำให้ชายหาดมีสีชมพูเป็นเพราะ มีสัตว์น้ำเซลล์เดียว
ที่ไม่มีกระดูกสันหลังประเภทแพลงตอน ฟอร์แรมมินิเฟอรา (foraminifera)อยู่บริเวณรอบเกาะจำนวนมาก ในเปลือกของแพลงตอน
มีแคลเซียมคาร์บอเนต จึงทำให้เป็นสีชมพูแดง เมื่องแพลงตอนตาย เปลือกของแพลงตอนจะถูกคลื่นพัดขึ้นฝั่ง ปะปนกับทรายขาว
จึงทำให้ดูเป็นสีชมพู เกาะฮาร์เบอร์ กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม ช่วงพักร้อนของนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน
นอกจากเกาะในประเทศบาฮามัส ยังมี เปอร์โตริโก เบอร์มิวดา บาร์บาดอส ฟิลิปปินส์ และสก็อตแลนด์ ที่มีมีหาดสีชมพูสาเหตุ
เช่นเดียวกันกับเกาะฮาเบอร์
5 .หาดทรายสีดำ Punaluu Black Sand Beach – Hawai
หาดทรายสีดำ Punaluu Beach ตั้งอยู่บน Big Island ของฮาวาย ชายหาดที่ล้อมรอบด้วยทรายสีดำที่เกิดจากลาวาที่ไหลทะลักลงสู่ทะเลและเย็นตัวลงจากภูเขาไฟในมหาสมุทร ที่หาดนี้คุณสามารถพบเต่า Hawksbill หรือ Green sea turtles แม้ว่าทรายสีดำที่หาดนี้จะสวยงาม แต่การนำทรายออกมาก็เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย
6.ชายหาดหาดทรายสีเขียว (Green sand beach) – Hawai
หาดทรายสีเขียวบนเกาะฮาวาย สีเขียวที่เห็นนั้นเป็นผลึกของหินโอลีวีน (Olivine) หรือแร่ของหินเพริโดไทต์ที่ผสมอยู่ในผืนทราย
หาดปาปาโกเลีย หาดทรายสีเขียว เป็นหาดที่ฮาวาย สหรัฐอเมริกา ตัวหาดเป็นลักษณะคล้ายจันทร์เสี้ยว
แล้วก็ไม่ได้เดินทางไปง่ายๆ ด้วย ต้องเดินเท้าหรือไม่ก็รถโฟร์วีลเท่านั้น อีกทั้งยังต้องเลาะไปตามหน้าผา ที่สำคัญอากาศร้อน
ระยะทางกว่าจะเดินทางไปถึงราว 4 กิโลเมตร
สาเหตุที่หาดทรายที่นี่เป็นสีเขียว สืบเนื่องมาจากเมื่อราว 49,000 ปีก่อนภูเขาไฟ ปูมาฮาน่า ได้ระเบิดขึ้นและถือเป็นการระเบิดครั้งสุดท้าย
ของภูเขาไฟลูกนี้ สีเขียวเหล่านี้เป็นผลพวงจากเถ้าลาวาที่ ปูมาฮาน่า พ่นออกมาจากใต้พิภพ มันคือแร่โอลิวีน (Olivine)
หรือแร่ของหินเพริโดไทต์ที่ผสมอยู่ในผืนทราย แร่นี้มีชื่อขนานนามกันอีกหนึ่งชื่อว่า "เพชรแห่งฮาวาย"
แต่ก็ไม่ใช่ว่าลาวาไหลลงมาแล้วจะมีเจ้าเกล็ดผลึกแร่โอลิวีน โปรยปรายดั่งสายฝนจากฟ้าสู่ดินมาเลยนะ ลาวาเมื่อไหลลงมาก็ต้องรอ
ให้เย็นตัวลง เมื่อเย็นแล้วก็ต้องรอเวลาผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านคลื่นซัดซาดครืนๆ เป็นระยะเวลาอีกสักพัก ไปๆ มาๆ
คลื่นก็พัดแร่โอลิวีนมาสะสมมากขึ้นๆ ที่หาดแห่งนี้
7 .ชายหาดขาวที่สุดในโลก Hyams Beach – Australia
ชายหาดทางตะวันออกของออสเตรเลีย ซึ่งได้รับการบันทึกลงใน Guinness Book ว่าเป็นชายหาดที่ขาวที่สุดในโลก ด้วยเม็ดทรายละเอียดเนียนดั่งผงแป้ง เดินเล่นสุดนุ่มเท้า จึงทำให้ชายหาดแห่งนี้มีชื่อเสียงและน่าไปเยือนสำหรับนักท่องเที่ยวตั้งอยู่ทางตะวันออกของออสเตรเลีย
8.ชายหาดซากโบราณ Tulum Beach – Mexico
ชายหาดตูลุมบนคาบสมุทรยูคาตาน (Yucatan Peninsula) ประเทศแม็กซิโก กวักมือเรียกนักท่องเที่ยวได้ด้วย ซากปรักหักพังของชาวมายาโบราณที่ทำให้หาดแห่งนี้น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ชายหาดตูลุม เป็นชายหาดที่ทอดตัวยาวขนานไปกับซากปราสาทอารยธรรมอันเก่าแก่ของชาวมายัน ตั้งอยู่ที่เมืองตูลุม (Tulum) อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่ มีชื่อเสียงในรัฐกินตานาโร (Quintana Roo) รัฐที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของคาบสมุทรยูคาทาน (Yucatan Peninsula) โดยในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13-15 เมืองตูลุมนั้นมีความเจริญรุ่งเรืองมาก และในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 เมืองก็ถูกทิ้งร้างไปจนกระทั่งกลายเป็นซากเมืองโบราณมาจนถึงปัจจุบันนี้
9.ชายหาดที่ยาวที่สุดในโลก Coxbazar beach – Bangladesh
ชายหาดที่ได้รับการขนานนามว่ายาวที่สุดในโลกด้วยความยาว 120 กิโลเมตร ส่วนลำดับที่ 2 คือ หาดคุจูคุริฮามะ
ของประเทศญี่ปุ่นที่มีความยาว 60 กิโลเมตร