Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
หน้ารวม Pic Post Pic Post ของฉัน สุดยอด Pic Post สุดยอดนักโพสท์คลังรูปค้นหา Pic PostPost รูป
ดูรายการโปรด เพิ่มเป็นรายการโปรด

THAILAND 🇹🇭 | Khon masked dance drama in Ayutthaya Era. โขนสมมุติอยุธยา (ตอนสำมนักขาหาคู่)

โพสท์โดย อ้ายเติ่ง

โขนสมมุติอยุธยา (ตอนสำมนักขาหาคู่)
©️Credit: BIGGYPHOTO

Khon masked dance drama in Thailand, Inscribed in 2018 on the Representative List of the Intangible Cultural Heritage of Humanity. The masked dance drama in Thailand is a performing art that combines musical, vocal, literary, dance, ritual, and handicraft elements. With a history of over 400 years, it depicts the glory of Rama and the incarnation of the god Vishnu, who brings order and justice to the world

 

สมมติว่า...โขนสยามมี Time Machine
บทความโดย: ธรรมจักร พรหมพ้วย
.....................................


วินาทีที่ลูแบร์ ทูตชาวฝรั่งเศส (Monsieuer Simon de la Lubère) ได้เห็นการแสดงโขนของราชอาณาจักรสยาม ในช่วงที่เขาพำนักอยู่ในกรุงสยามระหว่างวันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ.๒๒๓๐ - ๓ มกราคม พ.ศ. ๒๒๓๑ ตรงกับปลายรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา เขาได้บันทึกไว้ในหนังสือ Du Royaume de Siam ไว้ว่า


"...ชาวสยามมีมหรสพประเภทเล่นในโรงอยู่ ๓ อย่าง อย่างที่ชาวสยามเรียกว่า โขน (Cône) นั้น เป็นการร่ายรำเข้า ๆ ออก ๆ หลายคำรบตามจังหวะซอและเครื่องดนตรีอย่างอื่นอีก ผู้แสดงนั้นสวมหน้ากาก (หัวโขน) และถืออาวุธ แสดงบทหนักไปในทางสู้รบกันมากกว่าจะเป็นการร่ายรำ และมาตรว่าการแสดงส่วนใหญ่จะหนักไปในทางโลดเต้นเผ่นโผนโจนทะยานและวางท่าอย่างเกินสมควรแล้ว นาน ๆ ก็จะหยุดเจรจาออกมาสักคำสองคำ หน้ากาก (หัวโขน) ส่วนใหญ่นั้นน่าเกลียด เป็นหน้าสัตว์ที่มีรูปพรรณวิตถาร (ลิง?) หรือไม่ก็เป็นหน้าปิศาจ (ยักษ์?)...

ผู้แสดงเหล่านี้ไม่มีเครื่องแต่งตัวประหลาดอะไร นอกจากผู้ที่เล่นระบำหรือเล่นโขนเท่านั้นที่สวมชฎาทำด้วยกระดาษทองน้ำตะโก ทรงสูงปลายแหลมเกือบเหมือนลอมพอกขุนนาง แต่ครอบลงมาข้างล่างจนปรกปลายหู และประดับอัญมณีเก๊ ๆ กับตุ้มหูทำด้วยไม้ทาทองไว้ด้วย...โขนกับระบำนั้นมักหาไปแสดงในงานปลงศพ ลางทีก็หาไปเล่นในงานอื่น ๆ บ้าง และมีทีท่าว่าการมหรสพประเภทนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการพระศาสนาแต่อย่างใด ด้วยเป็นสิ่งต้องห้ามมิให้พระภิกษุสงฆ์ดู..." (สันต์ ท. โกมลบุตร, ๒๕๕๗)


ภาพที่ลูแบร์บรรยายนี้ไม่ต่างจากค่ำคืนของวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๓ ที่กลุ่มคิดบวกสิปป์ ได้นำเสนอการแสดง "โขนสมมติอยุธยา" ขึ้น ณ วัดปราสาท จังหวัดนนทบุรี ในแสงรำไรของเครื่องตามประทีปที่ถูกประจงวางด้วยเหล่าสตรี "นางบุญชม" ภายใต้ความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมพระอุโบสถศิลปะอยุธยา ยิ่งชวนให้ภาพความทรงจำจากบันทึกที่เคยเลือนรางนี้ กลับมาแจ่มชัดขึ้นอีกครั้ง


ความตั้งใจของผู้สร้างปรารถนาที่จะให้ลักษณะการเคลื่อนไหวแบบนาฏกรรมอยุธยาได้หวนกลับคืนตาม "ความเป็นไปได้" ที่ถูก "สมมติ" ขึ้น หากแต่ความสมจริงของภาพการแสดงชวนให้น่าเชื่อถือนักเพราะมาจากการค้นคว้า ทดลองทำ โดยอาศัยแนวคิดและความเข้าใจบนหลักการของศิลปะไทยด้วยการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของจิตรกรรมมาสู่งานนาฏกรรม และดำเนินการสร้างอย่างเป็นระบบระเบียบทั้งการวิจัยและการปฏิบัติการ (Workshop) แม้ว่าผู้สร้างจะออกตัวว่าผลงานนี้สร้างจาก "สมมติฐาน" มิใช่ "หลักฐาน" แต่ทว่าภาพที่ปรากฏสะท้อนการเอาใจใส่ในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นร่วมสมัยอย่างจริงจัง


การให้ความสำคัญการเคลื่อนไหว ดูจะเป็นจุดที่โดดเด่นที่สุดของคิดบวกสิปป์ การรำที่มิได้มุ่งเน้นเพียงการคัดลอกท่านิ่งจากจิตรกรรมในตำรารำต้นกรุงรัตนโกสินทร์หรือสมุดข่อยสมัยอยุธยา แต่ให้ความสำคัญกับวิธีการจากท่านิ่งหนึ่งไปสู่อีกท่านิ่งหนึ่งด้วยสิ่งที่โบราณเรียกว่า "ที" เพราะไม่อาจมีใครฟันธงได้ว่าการรำในสมัยอยุธยานั้นจะมีรูปลักษณ์ประมาณใด ต่างล้วน "อนุมาน" เอาจากหลักฐานที่มีอายุใกล้เคียงซึ่งโดยมากก็เป็นศิลปะสองมิติ ไม่เห็นความเชื่อมโยงที่เป็นความเคลื่อนไหว ดังนั้นประเด็นของการทดลอง "สมมติ" ในครั้งนี้ก็การลองเล่นกับกล้ามเนื้อและเหลี่ยมวงที่ใช้ในการรำ ตามที่สันนิษฐานว่า "โนรา" ที่เห็นในปัจจุบันอาจยังพอมี "เค้า" ของวิธีรำโขนและละครในสมัยอยุธยา เหลี่ยมและวงที่เป็นมุมหักศอก การควบคุมลายเส้นของร่างกายด้วยการกำหนดจุดการรับน้ำหนักแบบใหม่ดูเป็นแนวทางที่สร้างความเป็นไปได้ให้น่าเชื่อถือขึ้นมา


ทั้งนี้ผู้ออกแบบท่า (Choreographer) ได้เปิดโอกาสการทำงานร่วมกันของนักแสดงด้วยเทคนิค "การตีความ" ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าในท่ารำตัวพระและตัวนางนั้นมีการสร้างขึ้นใหม่โดยอ้างอิงจากลายเส้นภาพจิตรกรรม ซึ่งแม้ว่าจะมีความใกล้เคียงมากแต่รอยต่อของการเชื่อมท่าอาจยังไม่สนิทสมบูรณ์ซึ่งก็ยังสามารถพัฒนาได้ต่อไป ในขณะที่การตีความการใช้ท่ารำแบบอยุธยาของบท "นางสำมะนักขา" ยักษิณีที่แสดงโดยศิลปินชั้นนำอย่างอนุชา สุมามาลย์ กลับดูเป็นธรรมชาติและลงตัวกว่า โดยเฉพาะในด้านสรีระที่อวบพอดีสำหรับบทนางยักษ์แต่ยังแสดงท่ารำที่ใช้ "เกลียวข้าง" เมื่อออกกราวได้ชัดเจน อาจเป็นไปได้ว่า "ตะกอนของความแท้" ของท่ารำยักษ์และลิงในโขน ณ ปัจจุบัน ยังคงเสถียรภาพแห่งความเก่าแก่ไว้ได้มากกว่าท่ารำของตัวพระและนางที่กลายรูปจนเดาเค้าของเดิมได้ยากกว่า


ในส่วนอลังการแห่งการแสดงที่มาจากการจัดวางแสงไฟ การใช้พื้นที่และการควบคุมบรรยากาศ ล้วนเก็บรายละเอียดของกลิ่นอายการชมมหรสพแบบโบราณได้ดี ควันไฟจากการสุมไฟไล่ยุงได้ทั้งเอฟเฟคของแสงและกลิ่นใบไม้ไหม้ภายใต้อากาศที่เย็นกำลังดีถือเป็นบรรยากาศที่น่าทรงจำในอีกค่ำคืนหนึ่ง


สิ่งที่สะดุดตาผู้ชมทุกคนที่สุดเห็นจะเป็นเครื่องโขนที่มีสมติฐานมาจากจิตรกรรมศิลปะอยุธยา โดยผู้เชี่ยวชาญในการรื้อสร้างเครื่องแต่งกายไทยโบราณอย่างอาจารย์พีรมณฑ์ ชมธวัชได้นำเสนอความเป็นไปได้ให้เป็นจริง ภาพจิตรกรรมเทพนมในท่ายืนที่เป็นเอกอุในพระอุโบสถวัดปราสาทนี้ก็ได้กลายมาเป็นเครื่องแต่งกายที่แต่งได้จริงด้วยการ "นุ่ง" และ "ห่ม" ตามวิถีชีวิตชาวสยามแต่ดั้งเดิม ประกอบกับถนิมพิมพาภรณ์ที่อนุมานจากจิตรกรรมและมีข้อกังขาเสมอว่าเมื่อกลายมาเป็น "ของจริง" แล้วจะสะดวกแก่การเคลื่อนไหวทางนาฏกรรมได้ฉันใด แต่บทพิสูจน์นี้ก็ปรากฏออกมาเป็นเครื่องประดับน้อยชิ้นที่ไม่ขวางท่ารำ หรือการนุ่งโจงกระเบนมีชายสะบัดลอดใต้หว่างขาใต้สำเร็จและไม่ดูรุงรังเมื่อตัวละครต้องออกท่า หรือการใช้แพรย้อมเป็นผ้าสะพักสองบ่าของตัวนางผู้ชายก็ดูมีความเป็นไปได้ตามภาพจิตรกรรมในสมุดข่อยอยุธยาและยังส่งผลมาถึงช่วงรัตนโกสินทร์ในรัชกาลที่ ๓ ที่ภาพตัวนางละครในจิตรกรรมวัดทองธรรมชาติก็ยังห่มเช่นนี้ เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าการไม่สวมเสื้อนั้นเป็นปกติวิสัยของชาวสยามตามสภาพอากาศที่อบอ้าว จะปิดบังก็เพียงแต่ยอดถันของเหล่าผู้ดีมีแพรห่ม กันอุจาดจากสายตาอื่น

และเมื่อกลายมาเป็นแพรห่มนักแสดงชายของโขนก็ยิ่งดูเข้ากันเกิดความพริ้วไหวเมื่อหมุนตัวและทำให้เห็นวิธีการใช้ "เกลียวหน้า" คือกล้ามเนื้อส่วนท้องของท่ารำตัวนางได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และที่สำคัญอาจารย์พีรมณฑ์ยังบรรจงย้อมสีแพรให้มีโทนเข้ากับผ้าลายอย่างที่เป็นผ้านุ่งอีกด้วย


นอกจากนี้ในกระบวนการสร้างงานได้ยังสร้าง "หัวโขน" ขึ้นมาใหม่โดยข้อสมมติและจินตนาการของช่างเอกอย่างอาจารย์ขรรค์ชัย หอมจันทร์ รูปทรงและสัดส่วนของหน้าพระราม พระลักษมณ์ และหน้ายักษ์สำมะนักขา มีกลิ่นอายอย่างอยุธยางามได้ทรวดทรงรับกับลำคอและคางของผู้แสดงอย่างเหมาะเจาะ ซึ่งครูสมศักดิ์ ทัดติ ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์โขน (ยักษ์) ถึงกับออกปากชื่นชมในความพอดีของการทำหัวโขนชุดนี้ อีกส่วนหนึ่งของการ "สมมติ" คือการทดลองสร้างหัวโขนตัวนาง ที่แทบไม่เคยปรากฏหลักฐานมาก่อนว่ามีหรือหากมีแล้วรูปลักษณะจะเป็นเช่นไร ทั้งนี้ผู้สร้างอนุมานว่าการแสดงโขนในสมัยอยุธยาน่าจะสวมหัวโขนหรือหน้าโขนทุกบทบาทในเรื่องรามเกียรติ์ ทำให้การสร้างหัวโขนนางสีดาและนางสำมะนักขาแปลงเกิดมีขึ้นในเวทีนี้ โดยอาศัยภาพลายเส้นจิตรกรรมไทยประเพณีตัวนางมาเป็นแนวคิด สีดามีผิวหน้านวลลดทอนการเขียนลายเส้นลง สำมะนักขาแปลงสวมกระบังหน้า

ทว่า เมื่อชมบทบาทของตัวนางที่ใช้ผู้ชายสวมหัวโขนตัวนางแสดง กลับเกิดความรู้สึกว่าไม่เข้มขลังตามบทบาทหรือสะท้อนอารมณ์ทะลุหน้ากากได้เหมือนหัวโขนพระและยักษ์ ทั้งที่กระบวนท่ารำนางก็ชัดเจนตามบทบาทและนักรำก็ถ่ายทอดผ่านทางการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ดี แต่หน้าโขนตัวนางกลับสะท้อนอารมณ์ของท่ารำได้น้อยกว่า ชวนให้คิดว่านี่อาจเป็นเหตุให้ในชั้นกรุงรัตนโกสินทร์ ผู้แสดงโขนแม้เป็นผู้ชายจึงสวมเพียงศิราภรณ์แล้วผัดหน้าเพื่อใช้แสดงอารมณ์ผ่านแววตาและสีหน้าที่ทำได้ดีมากกว่าสวมหน้าโขน


ภายหลังการแสดงจบลง ได้มีการพูดคุยบอกเล่าแนวคิด รวมถึงคำนิยมจากศิลปินแห่งชาติ ครูผู้เชี่ยวชาญทางด้านโขนละครและศิลปะการแสดง ซึ่งล้วนชื่นชมในความตั้งใจที่ผู้สร้างงานสามารถเสกสรรค์ภาพอดีตให้ปรากฏอยู่ตรงหน้าตามที่ควรจะเป็น ถือเป็นศิลปะที่แท้ชิ้นหนึ่งที่นักนาฏกรรมไทยพึงศึกษาและใส่ใจทั้งในภาพผลงาน กระบวนการสร้างและผลลัพธ์ที่จะได้แก่ผู้ชม ชวนให้นึกถึงคำพูดหนึ่งที่ได้เคยบอกว่า "ศิลปะมีไวยากรณ์" หากผิดไวยากรณ์ แม้อ่านได้ก็รู้สึกแปลก ๆ การที่คนรุ่นปัจจุบันอาจดูแล้วรู้สึกขัดตา เพราะไม่เข้าใจไวยากรณ์ของการรำและศิลปะไทยแท้ ๆ หรือการใช้ค่ามาตรฐานของปัจจุบันไปตัดสินความเป็นไปได้ของโลกอดีต ระยะห่างระหว่างผู้ที่พยายามจะรื้อฟื้นภาพอดีตด้วยการ Back to the past ดูยิ่งเริ่มห่างเหินกับผู้คนรุ่นใหม่ที่ต้องการ Go to the future จนข้อคำถามหนึ่งหลุดออกมาจากปากผู้ชมภายหลังการแสดงจบว่าต้องการคำอธิบายแนวคิดทั้งหมดของการแสดง แสดงให้เห็นว่าตลอดเวลาที่เขาผู้นั้นรับชมอยู่ไม่อาจเข้าถึงไวยากรณ์ของศิลปะไทยที่ซับซ้อนเกินกว่าเด็กยุคใหม่จะเข้าใจได้ในทันที

ความพยายามที่จะต้องโยงระยะห่างของสองยุคให้เข้าหากันได้ด้วยการสื่อสารและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับศิลปะไทยควรเป็นไปอย่างเข้มแข็ง การเป็นที่ยอมรับได้ทั้งในแวดวงนาฏกรรมและเอื้อประโยชน์ต่อคนรุ่นใหม่ที่จะได้ทดลอง ค้นคว้ากันต่อแล้วสร้างเป็นผลงานขึ้นจริง แม้ว่าจะเป็นเพียงการ "สมมติ" ดังที่ "โขนสมมติอยุธยา" ได้ทำให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาทุกคนแล้ว


ด้วยความเปรมใจใน #ศิลปะบำรุงธรรม
๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๓


รายการอ้างอิง
สันต์ ท. โกมลบุตร, แปลจาก Lubère, Du Royaume de Siam. พิมพ์ครั้งที่ ๔ (กรุงเทพฯ: ศรีปัญญา, ๒๕๕๗), หน้า ๑๔๗-๑๔๘.

Credit: https://www.facebook.com/media/set/?vanity=Biggyphoto&set=a.1828469010642604
แชร์บน Facebook แชร์
Tags ที่เกี่ยวข้อง : Ayutthaya, โขนรามเกียรติ์, Khon, Mask, Thai, นาฏศิลป์ไทย, โขน, UNESCO, dance, performance, national, traditional, antique, weaving, clothes, Thailand
มีผู้เข้าชมแล้ว 10,297 ครั้ง
โพสท์โดย: อ้ายเติ่ง , 4Y
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ "VOTE" และ "SHARE"
THAILAND 🇹🇭 | Khon masked dance drama in Ayutthaya Era. โขนสมมุติอยุธยา (ตอนสำมนักขาหาคู่)
 
แชร์บน Facebook แชร์
หากคุณเป็นเจ้าของนิตยสาร/โมเดลลิ่ง เอเจนซี่ ต้องการโปรโมท สามารถส่ง e-mail แจ้งทีมงานให้ตั้งค่า username ของคุณเป็น Official User ได้ที่ info@postjung.com โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม

Pic Post อื่นๆ ของ อ้ายเติ่ง

THAILAND 🇹🇭 | Thai Apsara - Thai Apsorn, นางอัปสร(อัปสรา) ณ ปราสาทสะด๊กก๊อกธม THAILAND 🇹🇭 | Isan traditional costume - ชุดอีสาน, การแต่งกายภาคอีสาน THAILAND🇹🇭 | Thai Apsara - นางอัปสร Koraka Devi - goddess Songkran, Thailand 2020ดู Pic Post ทั้งหมดของ อ้ายเติ่ง
ดูต่อ
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง