หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
หน้ารวม Pic Post Pic Post ของฉัน สุดยอด Pic Post สุดยอดนักโพสท์คลังรูปค้นหา Pic PostPost รูป
ดูรายการโปรด เพิ่มเป็นรายการโปรด

"Syam Kuk - ស្យាំកុក៍ ” Siam in Angkorian Period, 12th Century

โพสท์โดย อ้ายเติ่ง

"Syam Kuk - ស្យាំកុក៍ ” Siam in Angkorian Period, 12th Century!🧡🇹🇭


"Syam Kuk” a well-known bass relief at Angkor Wat believed to depict the Siamese army marching in the Angkorian army either as its alliance or subjects?

One of the presumptions, the name Siam came from a Sanskrit word, Shyama means yellowish white. Aryan people (Indo Aryan) called us Shyama and became Shyam(Siam).

A detailed shot of one of the many scenes portrayed in Angkor Wat's Galleries of Bas-reliefs. The photo shows part of the South Gallery's West Wing - a procession of various leaders and their troops from provinces and countries of King Suryavarman II's empire.

Near the front of the procession at the easternmost end of this wing. A contingent of Syam Kuk soldiers - some smiling - marches in a relaxed way. "Syāṃ" may mean Siamese (present-day Thai) or other people from the north-western area of the Angkorian empire and "Kūta" may mean group, The script was recorded at the back of the army officer on the elephant's back (Has been destroyed).

===============

One of the presumptions, the name Siam came from a Sanskrit word, Shyama means yellowish white. Aryan people (Indo Aryan) called us Shyama and became Shyam(Siam).
 
"Is my mother Shyama black?
 
Shyama is sometimes white, at other times yellow,
again blue, and vibrant red.
 
The Mother’s true nature is beyond my understanding
and in contemplating Her my life has dissolved.
Is my mother Shyama black?
 
Shyama is sometimes spirit, sometimes matter,
and the transcendent void beyond both.
 
Lost in Her ecstasy, Kamalanta has gone insane.
Is my mother Shyama black?"
 
–Kamalakanta Bhattacharya--
 
Kamalakanta Bhattacharya or Sadhaka Kamalakanta (c. 1769–1821) was a Bengali Shakta poet and yogi of India of the late 18th century. He is often considered to have followed the example of Ramprasad, both in his poetry and in his lifestyle.
 
===============
 
“เสียมกุก” (ในจารึกภาษาเขมร ประกอบรูปสลักนูนต่ำบนระเบียงประวัติศาสตร์ที่ปราสาทนครวัด มีอายุราว พ.ศ. 1650) อ่านว่า “เสียมก๊ก” หมายถึง พวกเสียม(สยาม) หรือ ชาวสยาม
 
เสียมก๊ก เป็นชื่อที่จีนเรียกพวกสยามหรือขาวสยาม ซึ่งเป็นที่รับรู้กว้างขวางในยุคนั้นหรือก่อนหน้า ว่ามีความชำนาญการค้าทางบกบริเวณดินแดนภายใน แล้วใช้ภาษาตระกูลไทย-ลาว เป็นภาษากลางทางการค้า
 
ขบวนแห่ของชาวสยาม หรือ เสียมก๊ก เป็นพวกที่อยู่รัฐและบ้านเมืองบริเวณสองฝั่งโขงที่เป็นเครือญาติใกล้ชิดสนิทสนมของกษัตริย์กัมพูชายุคนั้น ฉะนั้นไม่ใช่“กองทัพเมืองขึ้นของขอม” ตามคำอธิบายของนักวิชาการเจ้าอาณานิคมตะวันตก,
ชาวสยาม ยุคนั้นมีศูนย์กลางอยู่สองฝั่งโขงบริเวณที่เป็นเวียงจันในสมัยหลัง สืบจนปัจจุบัน(เสียมก๊ก ไม่ใช่พวกสยามจากกรุงสุโขทัย ตามที่เคยเข้าใจว่าเป็นเมืองขึ้นของกัมพูชา)
 
ก๊ก มีรากจากคำในภาษาจีน หมายถึง ประเทศ, แว่นแคว้น, กลุ่ม, ชาว, พวก, หมู่, เหล่า เช่น เป็นก๊กเป็นเหล่า ฯลฯ อักขรวิธีภาษาเขมรต้องสะกดว่า กุก
 
มีใช้ในเอกสารจีนโบราณว่า เสียมหลอก๊ก หมายถึง เมืองไทย, กรุงศรีอยุธยา, หลอฮกก๊ก หมายถึง เมืองละโว้(ลพบุรี)
เคยมีผู้พยายามอ่านคำเขมร กุก ว่า ก๊ก มาก่อนแล้ว เช่น
อุไรศรี วรศะริน อดีตอาจารย์ประจำคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบุในข้อเขียนอธิบายภาพสลัก(ในหนังสือภาษาจารึก ฉบับภาควิชาภาษาตะวันออก 20 ปี เมื่อ พ.ศ. 2536) ความว่า “กุก ไม่ทราบคำแปล (เข้าใจกันว่าหมายถึง สยามก๊ก)” แต่ไม่มีคำอธิบายว่าเหตุใดจึงหมายถึงอย่างนั้น
 
รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ อธิบายเมื่อเร็วๆนี้ว่า “ในภาษาเขมรปัจจุบัน ถ้าจะให้ออกเสียง ‘กก’ จะต้องเขียนว่า ‘กุก’ แต่ถ้าเขียน ‘กก’ จะต้องออกเสียงว่า ‘กอก’ ถ้าสมมติว่า ‘กุก’ ในจารึกออกเสียง ‘กก’ และในระบบภาษาเขมรไม่มีเสียงวรรณยุกต์ ก็มีสิทธิจะเป็น ก๊ก ก็ได้”
เสียม คือ สยาม
ชื่อสยามมีพัฒนาการกว้างขวางยาวไกล และซับซ้อนมาก จิตร ภูมิศักดิ์ สอบค้นไว้อย่างลุ่มลึกรอบด้านที่สุดอยู่ในหนังสือความเป็นมาของคำสยามฯ สรุปว่าชื่อสยามมาจาก ซัม, ซำ หมายถึง ตาน้ำ, แหล่งน้ำ(พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2519) ว่าสยามเป็นทั้งชื่อดินแดนและเป็นทั้งชื่อกลุ่มชน ไม่จำกัดเผ่าพันธุ์
 
ชาวสยาม หมายถึง กลุ่มชนไม่จำกัดเผ่าพันธุ์ แต่สื่อสารด้วยภาษาตระกูลไทย-ลาว
มีหลักฐานว่าสยาม�ในเอกสารจีนมิได้หมายถึงรัฐสุโขทัย ดังนั้น“�เสียมกุก�” จึงไม่ใช่ขบวนแห่จากรัฐสุโขทัย
 
จิตร ภูมิศักดิ์ เคยเสนอว่า“�เสียมกุก�” นี้หมายถึงชาวสยามแห่งลุ่มแม่น้ำกก แถบที่ราบลุ่มเมืองเชียงราย เพราะอักขรวิธีเขมรที่เขียน“กุกฺ”� ต้องอ่านว่า “กก”� และบริเวณที่ราบลุ่มลำน้ำกก เมืองเชียงราย มีร่องรอยอารยธรรมอุดมสมบูรณ์
แต่ปัญหาก็มีอยู่ว่าดินแดนที่ราบลุ่มน้ำกกมีพัฒนาการเป็นแว่นแคว้นหรือรัฐในสมัยหลังๆหรือไล่เลี่ยกับรัฐสุโขทัยเท่านั้น
เพราะฉะนั้น“�เสียมกุก”� จึงไม่ใช่พวกเสียมลุ่มแม่น้ำกก
 
ส่วนอาจารย์ศรีศักร วัลลิโภดม เสนอว่า “�เสียมกุก�” ที่ปราสาทนครวัด ควรเป็นพวกรัฐโคตรบูรที่อยู่บริเวณสองฟากแม่น้ำโขงตั้งแต่ย่านอีสานเหนือจน ถึงเวียงจัน โดยอ้างว่าเอกสารจีนสมัยหลัง พ.ศ. 1700 (หรือพุทธศตวรรษที่ 18) กล่าวถึงพวกสยาม (เสียม-เสียน) ไว้หลายแห่ง แต่จำแนกเป็นพวกใหญ่ๆได้อย่างน้อย 2 พวก คือพวกที่เคลื่อนไหวทางทะเล เช่น สุพรรณบุรี, เพชรบุรี, นครศรีธรรมราช กับพวกที่เคลื่อนไหวทางบก เช่น บ้านเมืองสองฝั่งโขง มีเวียงจัน เป็นต้น
 
มีบันทึกของโจวต้ากวานในคณะทูตจีนที่เดินทางเข้าไปในเมืองพระนครหลวง เมื่อ พ.ศ. 1839 (ปีที่สร้างเมืองเชียงใหม่) ระบุว่ามีพวกสยาม(เสียน) เข้าไปทำมาหากินอยู่ในกัมพูชา(เมืองพระนครหลวง-นครธม) มีอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ทอผ้าไหม และรับจ้างทำงานบางอย่าง รวมถึงค้าขาย แล้วเคยยกทัพโจมตีหมู่บ้านชายแดนเมืองพระนครหลวง
 
จากบันทึกของโจวต้ากวานที่คัดมาเป็นหลักฐานนั้น แสดงว่าสยามพวกนี้มิได้เคลื่อนไหวไปทางทะเล แต่เคลื่อนไหวไปทางบก
สยามทางบกนี่แหละเป็นพวกเสียมก๊ก หรือ “เสียมกุก” ที่ปราสาทนครวัด
 
“เสียมก๊ก” หรือ “เสียมกุก” ที่ปราสาทนครวัดเป็นพวกสยามจากรัฐโคตรบูร หรืออาจเรียกง่ายๆว่า“สยามบก” ที่อยู่สองฟากแม่น้ำโขงตั้งแต่เขตอีสานเหนือจนถึงเวียงจัน
 
เมืองเวียงจัน(หรือ ศรีโคตรบูร) เป็นศูนย์กลางของพวกสยาม มี “เครือข่าย” ขึ้นไปถึงลำน้ำอูอยู่ตอนเหนือของลาว ถึงลำน้ำกกอยู่ทางเหนือของไทย แล้วมีเส้นทางคมนาคมต่อเนื่องเข้าไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มชนลุ่มแม่น้ำแดง-แม่ น้ำดำที่ภาคเหนือทางเวียดนาม รวมทั้งดินแดนทางใต้ของจีน(เขตยูนนาน) ที่มีอาณาจักรใหญ่ตั้งอยู่คือน่านเจ้าและคุนหมิง
 
✦ "Syam Kuk” a well-known bass relief at Angkor Wat believed to depict the Siamese army marching in the Angkorian army either as its alliance or subjects?
One of the presumptions, the name Siam came from a Sanskrit word, Shyama means yellowish white. Aryan people (Indo Aryan) called us Shyama and became Shyam(Siam).
A detailed shot of one of the many scenes portrayed in Angkor Wat's Galleries of Bas-reliefs. The photo shows part of the South Gallery's West Wing - a procession of various leaders and their troops from provinces and countries of King Suryavarman II's empire.
Near the front of the procession at the easternmost end of this wing. A contingent of Syam Kuk soldiers - some smiling - marches in a relaxed way. "Syāṃ" may mean Siamese (present-day Thai) or other people from the north-western area of the Angkorian empire and "Kūta" may mean group, The script was recorded at the back of the army officer on the elephant's back (Has been destroyed).
✦ “Siam Kuk” The Siamese people are great
“สยาม กุก” ชาวสยามผู้ยิ่งใหญ่
The bas-relief known as "Siam Kuk" (which means "Siamese Group") is a depiction of a group of Thai soldiers marching in the army of the Khmer Empire during the 12th century. It is a formation of the 21st army, the generals carry bows and arrows. Standing majestically in a seat bound on an elephant's back, hair braided in curls, wearing a hat adorned with flowers and feathers (the motif of "seat tied on an elephant's back" is different from that of the elephant's seat bound). all khmer by making a lotus-flower-shaped pedestal. The backrest of the seat on the openwork elephant's back is a curved pattern similar to a four-petal flower. It is similar to the flower decoration in the art of Dvaravati of the Chao Phraya River Basin. The bas-relief is located on the easternmost section of the outer wall of Angkor Wat, the largest religious monument in the world. The bas-relief shows a group of about 50 Thai soldiers, armed with spears, swords, and shields. They are marching in a relaxed manner, with some of them smiling and talking to each other. The soldiers are wearing traditional Thai clothing, which includes long skirts, loose-fitting shirts, and turbans.
The bas-relief of "Siam Kuk" explicitly show that the Siamese people are great. However, it show that they were a proud and confident people who were not afraid to fight for what they believed in. The soldiers in the bas-relief held a long spear with pointed roots, dressed in a floral pattern, decorated with very beautiful Uba bouquet. We are shown marching in a relaxed manner, with some of them smiling and talking to each other. This suggests that they were confident in their abilities and did not see themselves as inferior to the Khmer soldiers and shows that the Siamese people were skilled warriors. They are armed with spears, swords, and shields, and they are shown fighting bravely against their enemies. This suggests that they were a formidable force to be reckoned with.
Ultimately, the bas-relief of "Siam Kuk" is a reminder of the rich history and culture of the Siamese people. It is a testament to their strength, courage, and pride.
here are some narrations of foreign travelers about the image of the "Siam Kuk" bas-relief at Angkor Wat in the past:
* Henri Mouhot, a French explorer who visited Angkor Wat in 1860: "I was amazed to see the bas-relief of the Siamese Group. It was a powerful reminder of the long and shared history of the Thai and Khmer peoples. The soldiers were depicted with such skill and detail, and it was clear that they were proud and confident warriors. I felt a sense of kinship with them, as a fellow Southeast Asian."
* John Thomson, a Scottish photographer who visited Angkor Wat in 1866: "I was fascinated by the bas-relief of the Siamese Group. It was so different from anything I had ever seen before. The soldiers were dressed in such elaborate clothing, and their weapons were so unique. I could tell that they were an important part of the Khmer Empire, and I was honored to be able to see their image preserved for centuries."
* George Coedès, a French historian who visited Angkor Wat in the early 20th century: "The bas-relief of the Siamese Group is a valuable historical document that provides insights into the relationship between the Khmer Empire and the Thai kingdom during the 12th century. It is a reminder of the long and complex history of the two countries, which share a border and a rich cultural heritage."
* The Chinese traveler Zhou Daguan, who visited Angkor Wat in 1296: "The bas-relief of the Siamese Group is a remarkable depiction of the Thai people. The soldiers are shown with great detail and accuracy, and their clothing and weapons are clearly depicted. It is a valuable historical document that provides insights into the relationship between the Khmer Empire and the Thai kingdom during the 13th century."
* The Scottish photographer John Thomson, who visited Angkor Wat in 1866: "The bas-relief of the Siamese Group is a fascinating depiction of the Thai people. The soldiers are shown in their traditional clothing and armed with their traditional weapons. It is a valuable historical document that provides insights into the culture and society of the Thai kingdom during the 19th century."
These are just a few examples of the many narrations that foreign travelers have written about the image of the "Siam Kuk" bas-relief at Angkor Wat in the past. The bas-relief has long been a source of fascination and inspiration for travelers from all over the world. It is a reminder of the shared history and culture of the Thai and Khmer peoples, and it continues to be a powerful and moving sight for visitors to Angkor Wat.
=======
 
🌹 References :
 
* **George Coedès, **Angkor: An Introduction, (Oxford University Press, 1963).
 
* **Michael Freeman and Claude Jacques, **Angkor: The Hidden History, (Thames & Hudson, 1999).
 
* **Michel Jacq-Hergoualch, **Angkor: Heart of an Empire, (Thames & Hudson, 2007).
 
 
* **Vittorio Roveda, **Angkor: The Complete Guide, (A&C Black, 2011).
 
* **Zhou Daguan, "A Record of Cambodia"** (1296): This is a travelogue written by the Chinese traveler Zhou Daguan, who visited Angkor Wat in 1296. In his book, Zhou Daguan describes the bas-relief of the Siamese Group in detail, and he provides insights into the relationship between the Khmer Empire and the Thai kingdom during the 13th century.
 
* **Henri Mouhot, "Travels in the Central Parts of Indo-China (Siam, Cambodia, Laos)"** (1868): This is a travelogue written by the French explorer Henri Mouhot, who visited Angkor Wat in 1860. In his book, Mouhot describes the bas-relief of the Siamese Group in detail, and he expresses his admiration for the skill and detail with which the soldiers are depicted.
 
* **John Thomson, "The Straits of Malacca, Indo-China and China"** (1875): This is a travelogue written by the Scottish photographer John Thomson, who visited Angkor Wat in 1866. In his book, Thomson provides a detailed description of the bas-relief of the Siamese Group, and he includes several photographs of the bas-relief.
 
* **George Coedès, "Angkor: An Introduction"** (1963): This is a book written by the French historian George Coedès, who was an expert on the history of Southeast Asia. In his book, Coedès discusses the bas-relief of the Siamese Group in detail, and he provides insights into the meaning and significance of the bas-relief.


#สยามกุก #เสียมกุก #อาภรณ์งามสตูดิโอ #Syamkuk #PeeramonChomdhavat #ArpornNgamstudio #Thai #siam #Thailand

Credit: https://www.facebook.com/AsianSEAStory/photos/a.105101814528731/263382485367329/
แชร์บน Facebook แชร์
Tags ที่เกี่ยวข้อง : Thai, history, Thailand, Angkor wat, นครวัด, สยามกุก, Syam Kuk, ស្យាំកុក៍
มีผู้เข้าชมแล้ว 6,374 ครั้ง
โพสท์โดย: อ้ายเติ่ง , 4Y
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ "VOTE" และ "SHARE"
"Syam Kuk - ស្យាំកុក៍ ” Siam in Angkorian Period, 12th Century
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
 
Voted By: อ้ายเติ่ง
หากคุณเป็นเจ้าของนิตยสาร/โมเดลลิ่ง เอเจนซี่ ต้องการโปรโมท สามารถส่ง e-mail แจ้งทีมงานให้ตั้งค่า username ของคุณเป็น Official User ได้ที่ info@postjung.com โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม

Pic Post อื่นๆ ของ อ้ายเติ่ง

THAILAND 🇹🇭 | The Sbai, Thai dress (ชุดไทย) THAILAND 🇹🇭 | Naga, พญานาคราช By V.lex Digital Arts THAILAND 🇹🇭 | นิลพัท ลิงดำกำแหง, "โขน" Khon masked dance drama in Thailand THAILAND 🇹🇭 | Thai Apsara headdress, Thai Apsara Crownดู Pic Post ทั้งหมดของ อ้ายเติ่ง