การประกวดนารีศรีโรจจนากร 2552 ณ มหาววิทยาลัยมหาสารคาม
โพสท์โดยการประกวดนารีศรีโรจนากร เป็นหนึ่งในกิจกรรมงานประเพณีลอยกระทงของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่กลุ่มนิสิตที่มีใจรักด้านศิลปวัฒนธรรมมีความพยายามจะทำให้มหาวิทยาลัยมีมาตรฐานการจัดการกิจกรรมพิเศษทางวัฒนธรรม ให้เป็นผู้นำอันดับหนึ่งด้านวัฒนธรรมในระดับภาคอีสานและระดับประเทศ
งานประเพณีลอยกระทงมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้เปลี่ยนชื่อการประกวดจากนางนพมาศมาเป็นนารีศรีโรจนากร เมื่อปี 2548 และตั้งชื่อ/แนวคิดการจัดงานว่า "ประเพณีลอยกระทง เทิดไท้องค์ราชันย์ มิ่งขวัญ มมส" โดยกลุ่มนิสิตพรรคพลังสังคม ซึ่งมีอำนาจในการบริหารองค์การนิสิตในปีนั้น มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทางการจัดการวัฒนธรรม คือ มีนโยบายส่งเสริมให้คณะต่างๆ จัดรูปขบวนแห่ จากแต่ก่อนเป็นขบวนทางวัฒนธรรมเชิงนานาอารยธรรมจตุภูมิภาค โดยเปลี่ยนมาเป็นขบวนวัฒนธรรมนานาอาริยะชาติพันธุ์แห่งภูมิภาคอีสาน และเป็นปีแรกที่องค์การนิสิต ประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามเพื่อสนับสนุนโล่ห์เกียรติยศสำหรับขบวนแห่ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ทั้งนี้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้รับเกียรติจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม (นายรังสรรค์ เพียรอดวงศ์) เดินทางมาเป็นประธานในพิธีปล่อยริ้วขบวนแห่ในช่วงเย็น และเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดของสโมสรนิสิตคณะเทคโนโลยี ได้รับโล่ห์เกียรติยศนั้นไปครอง ส่วนสโมมสรนิสิตคณะการบัญชีและการจัดการ ได้รับรางวัลรถกระทงใหญ่ยอดเยี่ยมแห่งปี และสาวงามจากสโมสรนิสิตคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์(จำชื่อไมได้ ทราบแต่เพียงเป็นคนโคราช เธอโชว์ความสามารถโดยการเป่าขลุ่ย และมีสัดส่วนและใบหน้าที่งดงาม ตอบคำถามได้อย่างฉะฉาน ใครทราบชื่อและประวัติหรือมีภาพช่วยโพสลงด้วยนะคะ) ครองตำแหน่งนารีศรีโรจนากรเป็นคนแรก ต่อมาปี 2549 พรรคช่อราชพฤกษ์ มีอำนาจในการบริหารองค์การนิสิต ใช้ชื่อการประกวดสาวงามในงานลอยกระทงของมหาวิทยาลัยว่า "นางนพมาศอีสาน" แฃะตั้งชื่อ/แนวคิดการจัดงานว่า "แดนดินถิ่นอีสาน สืบตำนานลอยกระทง นพไท้องค์ราชัญ" และมีนโยบายให้แต่ละขบวนแห่ออกแบบสร้างสรรค์รูปขบวนเพื่ออนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมอีสาน ซึ่งนั่นเป็นผลต่อเนื่องและแรงบันดาลใจจากการพบเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของงานลอยกระทงเมื่อปี 2548 การสร้างสรรค์ชื่อการประกวด ชื่อ/แนวคิดการจัดงานจึงเป็นอีกนวัตกรรมที่แสดงถึงศักยภาพผู้นำนิสิตในองค์กรด้านการบริหารงานพัฒนากิจกรรมนิสิตระดับสูงสุดของมวลประชาคมมหาวิทยาลัยมหาสารคาม นั่นคือ องค์การนิสิต ต่อมาในปี 2550 พรรคพลังสังคม ได้มีอำนาจโดยการเลือกตั้งให้บริการองค์การนิสิต ตั้งชื่อ/แนวคิดการจัดงานว่า "พุทธบุรีศรีตักสิลา มหาสารคามตามฮีตฮอยประทีป เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหามงคล" จึงมีการประกวดนารีศรีโรจนากรเป็นครั้งที่ 2 ผู้ได้รับตำแหน่งคือ สาวงามจากสโมสรนิสิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผังเมือง และนฤมิตศิลป์(ชื่อน้องเก๋ เรียนสาขานฤมิตศิลป วิชาเอกออกแบบแฟชั่นและสิ่งทอ จำชื่อจริงไม้ได้ เธอโชว์ความสามารถพิเศษด้วยการร้องเพลงใจอ่อน ของฝนธนสุนทร ตอบคำถามอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความรู้สึกประทับใจต่อองค์ในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นคำถามจากนายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม เป็นกรรมการรับเชิญจากภายนอก) ส่วนการนโยบายการจัดรูปขบวนแห่นั้นเป็นการให้แล่ละสโมสรนิสิตจับฉลากจังหวัดในภาคอีสาน ครั้งนั้นสโมสรนิสิตคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม(จัดรูปขบวนเป็นวัฒนธรรมจังหวัดนครพนม)เป็นผู้ครอบครองโล่ห์เกียรติยศจากผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม(นายรังสรรค์ เพียรอดวงศ์) ในช่วงค่ำท่านรังสรรค์ ได้เดินทางมาเปิดงาน ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ที่ท่านให้เกียรติมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ปี 2548 มาในฐานะรองผู้ว่าฯ ปี 2550 มาในฐานะ ผู้ว่าฯ)ส่วนสโมสรนิสิตคณะวิทยาศาสตร์ ได้ครองรางวัลชนะเลิศการประดิษฐ์กระทงใหญ่
ต่อมาในปี 2551 พรรคชาวดิน มีอำนาจในการบริหารองค์การนิสิต ตั้งชื่อ/แนวคิดการจัดงานว่า "มอน้ำชีเอ้กระทงงาม มหาสารคามเมืองศิลป์ ท้องถิ่นร้อยตำนาน มูมมังอีสานมั่นยืน" ตั้งชื่อการประกวดสาวงามว่า "ธิดา สรอยดอกหมาก" ซึ่งผู้ครองตำแหน่งธิดาสร้อยดอกหมากคนแรกของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม คือ นางสาวรัตนาพร สารศรี (น้องโบว์)สาวงงามจากสโมสรนิสิตวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ เธอโชว์ความสามารถด้วยการขับลำท้องถื่นประกอบการเป่าแคน และตอบคำถามเกี่ยวกับการใช้ชีวิตอย่างไรให้มีความพอเพียง ได้อย่างน่าประทับใจ ประกอบกับบุคลิกภาพที่โดเด่นจากการส่วมใส่ผ้าไหมลายสร้อยดอกหมาก พรรคชาวดินมีนโยบายให้จัดรูปขบวนแห่แบบรวมคณะ โดยให้จับฉลากวรรณกรรมอีสาน ซึ่งขบวนที่ได้รับโล่ห์เกียรติยศในปีนั้นคือ ขบวนสังข์ศิลป์ชัย (สินไซ) โดยการรวมสโมสรนิสิตคณะศิลปกรรมฯ สถาปัตย์ฯ และวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ เข้าด้วยกัน ในปีนี้ภาคความยิ่งใหญ่ของงานผนวกเพิ่มยิ่งขึ้นเมื่อคณะผู้จัดงานมีการสร้างสรค์โลโก้เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของงาน มีการจัดการที่ทันสมัย เวทีใหญ่ แสงเสียงครบครัน และมีความทันสมัยมากที่สุดเท่าที่มีการจัดงานมา
ต่อมา ปี 2552 พรรคพลังสังคม มีอำนาจในการบริหารองค์การนิสิต ตั้งชื่อ/แนวคิดการจัดงานว่า "มอน้ำชีบูชาสาระสินธุ์ โฮมฮ้อยสาระถิ่นสิบเก้าเมือง ตักสิลานครฮุ่งเฮืองสาระธรรม งามล้ำประทีปศรีสง่าสาระคน" และมีการประกวดนารีศรีโรจนากรเป็นครั้งที่ 3 มีนโยบายการจักรูปขบวนแห่เป็น 19 จังหวัด แห่งภาคอีสาน ขบวนแห่ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศและครองโล่ห์เกียรติยศจากท่านอธิการบดีมหาวิยาลัยมหาสารคาม ผศ.ดร.ศุภชัย สัปปิโต คือ ขบวนแห่วัฒนธรรมจังหวัดนครพนม โดย สโมสรนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ ผู้ครองสายสะพายและโล่ห์เกียรติยศนารีศรีโรนากรคือ นางสาวสร้อยสุดา พินิจ จากสโมสรนิสิตคณะวิทยาการสาระสนเทศ เธอคนนี้ขึ้นประกวดปีแรกเมื่อ 2550(ตกรอบแรก) ขึ้นประกวดครั้งที่ 2เมื่อปี 2551 (เข้ารอบ 2 เพื่อแสดงวิสัยทัศน์เรื่อง มมสกับศิลปวัฒนธรรมอีสาน) ขึ้นประกวดครั้งที่ 3 เมื่อปี 2552 จึงได้ครองตำแหน่งสมความตั้งใจ ก็ด้วยการแสดงความสามารถพิเศษเต้นประกองเพลงทุ่งลุยลายของวงโปงลางสะออน และการตอบคำถามที่ฉะฉานสมกับที่เรียนสาขาวิการสื่อสารมวลชน และการพบความสวยน่ารักแบบสาววัยรุ่นยุคใหม่และมีใบหน้าคล้ายดาราและสัดส่วนเอวบางรูปร่างเล็ก เป็นที่น่าประทับใจอย่างยื่ง งานนี้มีการบันทึกภาพการประกวดเพื่อเผยแพร่ผ่านทาง สกายเคเบิ้ลทีวี มหาสารคาม ซึ่งมีเรตติ้งสูงมาก ทีมข่าวสังคม ศิลปะ วัฒนธรรม ของเรามีภาพบางส่วนของงานมาฝากค่ะ
ส่วนในปี 2553 ขอเชิญทุกท่านติดตามความเคลื่อนไหว ซึ่งในปีนี้พรรคชาวดิน มีอำนาจในการบริหารองค์การนิสิต ใครจะเป็นธิดาสร้อยดอกมากคนที่ 2 ของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และจะมีชื่อ/แนวคิดการจัดงานว่าอย่างไร โปรดติดตาม วันนี้ลาทุกท่านไปก่อน ขอบคุณที่ติดตามอ่าน ทีมข่าว พิราบขาว สวัสดีค่ะ
มีผู้เข้าชมแล้ว 8,338 ครั้ง
โพสท์โดย: จัดโดยพรรคพลังสังคม(อ.มมส.52) , 14Yเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ "VOTE" และ "SHARE"
การประกวดนารีศรีโรจจนากร 2552 ณ มหาววิทยาลัยมหาสารคาม
6 VOTES (3/5 จาก 2 คน)
หากคุณเป็นเจ้าของนิตยสาร/โมเดลลิ่ง เอเจนซี่ ต้องการโปรโมท สามารถส่ง e-mail แจ้งทีมงานให้ตั้งค่า username ของคุณเป็น Official User ได้ที่ info@postjung.com โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ