ฉาวสีกากี กองปราบ รวบจ่าหมี อัดคลิปอนาจารเด็กชาย 13 ขวบ สุดเจ๋งสืบจากรูปถ่ายใบเดียว
โพสท์โดย showtonightหลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้รับแจ้งจากตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย AFP (Australian Federal Police) ว่ากรณีมีข้อมูลเป็นภาพการล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายจำนวนหนึ่ง ซึ่งต้องสงสัยว่าสถานที่เกิดเหตุจะอยู่ในประเทศไทย โดยรูปภาพดังกล่าวถูกตรวจพบในประเทศออสเตรเลียด้วยระบบเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งตรวจจับการกระทำความผิดครอบครองและเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็กโดยเฉพาะของสำนักงานองค์การตำรวจสากล (INTERPOL) ซึ่งผู้ต้องหาให้การว่า ได้รับภาพดังกล่าวมาจากบุคคลที่ใช้นามแฝงว่า Jaa Mee “จ่าหมี” และมีข้อมูลเพียงว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร หรือตำรวจ อยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย ต่อมา DSI จึงได้ประสานข้อมูลทางการสืบสวนกับกองบังคับการปราบปราม เพื่อดำเนินการสืบสวนตามกฎหมาย พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รรท. ผบก.ป. ได้สั่งการให้พ.ต.อ. สมพงษ์สุวรรณวงศ์ ผกก.6 บก.ป. พร้อมกำลัง ร่วมดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดจากพยานหลักฐานเพียงรูปภาพหนึ่งใบ และได้ลงพื้นที่หาข่าวอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 6 เดือน จนกระทั่งทีมสืบสวนทราบว่า บุคคลต้องสงสัย ผู้ใช้นามแฝงว่า Jaa Mee “จ่าหมี” คือ ด.ต.ประภาศ โดยบ้านพักของ ด.ต.ประภาศฯ มีลักษณะตำหนิพิเศษที่คล้ายกับที่เกิดเหตุตามภาพถ่ายที่กองบังคับการปราบปราม ได้รับจาก DSI จึงเข้าจับกุมข้าราชการตำรวจ คนดังกล่าว ตามหมายจับศาลอาญา ในความผิดฐานกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่ เกิน 13 ปี และให้การช่วยเหลือเหยื่อเด็กชาย
ต่อมาวันที่ 6 พ.ย. 2561 ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รรท.ผบก.ป.สั่งการ พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6 บก.ป.พ.ต.ท.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ รอง ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.กริช วรทัต สว.กก.6 บก.ป. และ พ.ต.ท.ปิยะพล แป้นแก้ว สว.กก.6 บก.ป. ปราบปราม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรมการปกครอง สถาบันนิติวิทยาศาสตร์และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และเจ้าหน้าที่ผู้ประสานงานจากตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย AFP ร่วมจับกุม ด.ต.ประภาศ เม่าทอง ผบ.หมู่ สภ.ป่าพยอม จ.พัทลุง ตามหมายจับศาลอาญา ในความผิดฐานกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในภาคใต้ โดยคดีนี้เริ่มจากเมื่อเดือนมกราคม 2561 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับแจ้งจากตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลียว่าพบภาพการล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายจำนวนหนึ่งทางอินเตอร์เน็ต โดยสถานที่เกิดเหตุอยู่ในประเทศไทย โดยรูปภาพดังกล่าวถูกตรวจพบในประเทศออสเตรเลีย ด้วยระบบเทคโนโลยีขั้นสูงซึ่งตรวจจับการกระทำความผิดครอบครองและเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็กโดยเฉพาะของสำนักงานองค์การตำรวจสากล ซึ่งผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ให้การว่า ได้รับภาพดังกล่าวมาจากบุคคลที่ใช้นามแฝงว่า Jaa Mee “จ่าหมี” ซึ่งรู้แต่เพียงว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย
ต่อมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ประสานข้อมูลกับกองปราบปราม เพื่อดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดจากพยานหลักฐานเพียงรูปภาพหนึ่งใบ พร้อมลงพื้นที่หาข่าวอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 6 เดือน จนกระทั่งทีมสืบสวนทราบว่า บุคคลดังกล่าวคือ ด.ต.ประภาศ โดยบ้านพักของผู้ต้องหามีลักษณะคล้ายกับที่เกิดเหตุตามภาพถ่าย จึงเข้าจับกุมผู้ต้องหา และให้การช่วยเหลือเหยื่อเด็กชาย 1 คน จากการตรวจสอบสามารถยึดของกลางได้หลายรายการประกอบด้วยหมวกซึ่งเป็นใบเดียวกับที่อยู่ในภาพถ่าย, โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องมีภาพและคลิปวีดีโอที่ล่วงละเมิดทางเพศเด็กหลายคลิป ขาตั้งกล้อง และคอมพิวเตอร์พีซี 1 เครื่อง สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าเป็นเผยแพร่คลิปลามกอนาจารเด็กชายจริง โดยการกระทำดังกล่าวเป็นรสนิยมทางเพศ อย่างไรก็ตามทางกองปราบปรามกำลังอยู่ในระหว่างการขยายผลดำเนินการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องคนอื่นๆ มาดำเนินคดีต่อไป
พ.ต.อ.จิรภพ กล่าวว่า ขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนทุกท่านว่า การครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก และการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งมีลักษณะลามกอนาจารเด็ก โดยการครอบครองนั้น มีโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ แต่ถ้ามีการส่งต่อสื่อลามกอนาจารเด็ก ไม่ว่าจะเป็นภาพโป๊หรือคลิปโป๊เด็ก ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 7 ปีหรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ แต่หากกระทำไปเพื่อการค้า ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 3-10 ปีและปรับตั้งแต่ 60,000-2000,000 บาท ซึ่งเรื่องนี้ประชาชนต้องช่วยกันดูแลสอดส่องเพราะ ปัญหาความผิดเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็กมีผลโดยตรงต่อสถานการณ์การค้ามนุษย์ในประเทศไทย