THAILAND 🇹🇭 | Dvaravati Era, สมัยทวารวดี
โพสท์โดย อ้ายเติ่งชุดสมัยทวารวดี: Taew Natapohn Tameeruks แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์
🌿 The Dvaravati period lasted from around the 6th to the 11th century in what is now Thailand.
Dvaravati refers to a culture, an art style, and a disparate conglomeration of principalities.
Dvaravati itself was heavily influenced by Indian culture and played an important role in introducing Buddhism and particularly Buddhist art to the region.
การแต่งกายสมัยทวารวดี
Archaeological research over the past two decades or so has revealed the presence of a "proto-Dvaravati" period which spans the 4th-5th century, and perhaps earlier.
ยุคทวาราวดี (พุทธศตวรรษที่ 12 - 16) ปรากฏอยู่ในภาคกลางของประเทศไทย แถบจังหวัดนครปฐม สุพรรณบุรี สิงห์บุรี ลพบุรี ราชบุรี และ ยังกระจายไปอยู่ทุกภาค
การแต่งกายสมัยทวารวดี ชาวทวารวดีได้ีรับอิทธิพลจากอินเดียแบบสมัยคุปตะทำให้เครื่องแต่งกายออกมาเป็นแบบอิทธิพลของอินเดีย
โดยใช้เครื่องประดับที่เป็นลูกปัดแก้ว หินอาเกต มีสีสันต่างๆสวยงาม และเป็นสินค้าสำคัญในยุคนั้น
การแต่งกายของผู้ชาย จากหลักฐานที่ชาวจีนสมัยโบราณบันทึกไว้ถึงชาวทวารวดีกล่าวว่า พระมหากษัตริย์ออกว่าราชการจะทรงอาภรณ์สีเมฆ ยามเช้าจะทรงศิราภรณ์ทองคำ เครื่องใช้ก็เป็นทองคำล้วน ผ้าทรงลายลูกไม้คล้องคอ ต่างหูทองคำ ศิราภรณ์เป็นทองคำประดับมุกและอัญมณีต่างๆ นุ่งผ้าคล้ายชาวอินเดีย คือนุ่งโจงกระเบนยาวเลยเข่าไป มีเครื่องประดับที่คอและเครื่องแขนที่ประดับมุกและอัญมณี คาดเข็มขัด เกล้าผมเป็นมวยสูงๆ
การแต่งกายของผู้หญิง นิยมใช้ผ้าคล้องคอ ไหล่ แต่จะพาดไปทางไหนไม่มีกำหนดกฎเกณฑ์อะไรตายตัว บางคนก็นำมาคาดไว้ที่อกแบบผ้าแถบ นุ่งผ้ายาวกรอมเท้า พับเป็นทบเล็กน้อย มีชายพกด้านหน้า เกล้าผมสูง ต่างหูแบนๆกลมๆทำจากโลหะหรือทองคำดุนเป็นลวดลายต่างๆ หรือบางครั้งทำเป็นรูปอื่นๆ เช่นหยดน้ำ ดอกไม้ ดอกบัวตูม เป็นต้น
#Dvaravati #culture #traditional #hairstyle #history #dresses #outfit #Siam #Thailand